อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 3/58 รายได้จะเติบโต 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/58 ที่มีรายได้ 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากรถกระบะโมเดลใหม่เริ่มมีออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสัญญาระยะยาวถึง 7 ปี
"ในช่วงครึ่งปีแรกประเทศไทยมีการผลิตรถยนต์ 0.94 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.8% โดยมีการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 10% แต่อย่างไรก็ตามการผลิตเพื่อส่งออกยังมีการขยายตัว 4% ซึ่งบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกถึง 60% ซึ่งเรามองแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น จากยอดผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวดีขึ้น และเรายังได้ออเดอร์ใหม่จากรถกระบะโมเดลใหม่เข้ามาด้วย นอกจากนี้อุตสาหกรรมเครื่องจักรการเกษตร ที่คูโบต้าจะมีการผลิตรถแทรกเตอร์เพิ่มขึ้นประมาณ 7% อีกด้วย"นางสาวนภัสร กล่าว
นางสาวนภัสร กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ให้อยู่ในระดับ 8-9% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่เพียง 5.96% โดยบริษัทได้บริหารจัดการต้นทุนให้ลดลงโดยการบริหารสินค้าคงคลัง ลดชั่วโมงการทำงาน ไม่รับตำแหน่งงานเพิ่มในตำแหน่งที่ว่าง รวมถึงเจรจาซื้อวัตถุดิบในราคาที่ลดลง ช่วยให้อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยปีนี้ไม่ลดลงไปมากนัก
นอกจากนี้บริษัทฯยังคงแผนการลงทุน 500-800 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตเพลาข้างให้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตด้วย