ด้านการประมูลงานในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมเข้ายื่นประมูลงานรถไฟทางคู่ 1 โครงการ มูลค่า 1.2-2 หมื่นล้านบาท และงานของบมจ.ปตท. (PTT) 2 โครงการ มูลค่างานละ 3 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังจะได้รับงานดังกล่าวทั้งหมด โดยงานรถไฟทางคู่จะประกาศผลออกมาในช่วงปี 59 ส่วนงานของปตท.จะประกาศผลในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานเหมืองโปรแตซ จ.ชัยภูมิ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทราบผลการประมูลภายในสิ้นปีนี้ โดยหากบริษัทได้งานประมูลเหมืองโปรแตซดังกล่าว จะส่งผลให้มูลค่า Backlog ของบริษัทในสิ้นปี 58 มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"ถ้าได้งานเหมืองโปรแตซในปีนี้จะทำให้ Backlog เราทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็น Backlog ที่เป็น New High เราเคย New High เมื่อก่อน 4.5 พันล้านบาท แต่ตอนนี้ก็มากกว่าของเดิมแล้ว เรามี Backlog อยู่ตอนนี้ 7 พันล้านบาท"นายภาสิต กล่าว
นายภาสิต กล่าวว่า ขณะที่การเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นเหมืองโปรแตซไม่เกิน 25% จาก 4% ในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการทำตัวเลขเงินลงทุน และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆนี้ โดยจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 2.6 พันล้านบาท โดยเงินลงทุนมาจากการออกหุ้นกู้แบบเฉพาะเจาะจง (PP) มูลค่า 600 ล้านบาท และการออกหุ้นกู้ในวงเงินที่ขออนุมัติจากหุ้นกู้ไปแล้วที่ 2 พันล้านบาท โดยบริษัทได้มีการออกหุ้นกู้ไปแล้ว 100 ล้านบาท และจำนวนเงินที่เหลือจะทยอยออกไปให้หมดไปจนถึงไตรมาส 1/58