นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโตกว่า 20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 10% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายกล้องถ่ายภาพดิจิตอลเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามสินค้าประเภทกล้องถ่ายภาพดิจิตอลเป็นสินค้าที่อยู่ในกระแส จับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษา และผู้หญิง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จะเห็นได้จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้และกำไรสูงสุดทำสถิติใหม่
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น และยังเตรียมที่จะจัดงานอีเวนท์ 2 งานใหญ่เพื่อกระตุ้นยอดขายกล้องถ่ายภาพ โดยในวันที่ 1-6 ก.ย. ได้จัดงาน Big Camera ,Big Pro Days ครั้งที่ 9 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในช่วงเดือน พ.ย. เตรียมเข้าร่วมงาน Photo Fair 2015 ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า ส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 70-80% จากกว่า 50% ในปัจจุบัน หลังจากที่คู่แข่งหลายๆรายเริ่มทยอยปิดกิจการ เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์
สำหรับงบลงทุนในปีนี้ บริษัทตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 40 ล้านบาท ใช้ขยายสาขา Big Camera เพิ่มอีก 10 แห่ง และปรับปรุงสาขาเดิม โดยคาดว่า ณ สิ้นปีจะมีสาขา 215 สาขา จากปัจจุบันมีร้าน Big Camera อยู่ที่ 210 สาขา และร้าน Big Mobile จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือมี 22 สาขา ส่วนที่เหลืออีก 50 ล้านบาท เป็นงบเพื่อใช้สำหรับการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขาย
นายธนสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการจัด 2 อีเวนท์ใหญ่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีแล้ว ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังได้เปิดให้บริการปริ๊นท์ภาพจากสมาร์ทโฟน และถ่ายภาพติดบัตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างดี โดยในช่วงเดือนก.ค. ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มลงเครื่องปริ๊นท์ตามสาขาต่างๆ และปัจจุบันก็ได้ลงเครื่องได้ครบทุกสาขาแล้ว