"ชาวบ้านธาตุทุกคน ยังยืนยันไม่เอาโรงไฟฟ้าจนกว่าจะทำให้เรามั่นใจในเทคโนโลยี ความปลอดภัยต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาโรงไฟฟ้าไม่เคยทำให้คนในพื้นที่เข้าใจ หรือให้ข้อมูลตามที่ร้องขอ ซึ่งในครั้งนี้เราได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้ง โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าต้องทำตามเงื่อนไขที่ชาวบ้านได้วางไว้ ก่อนการก่อสร้าง และหากยังยืนยันที่จะก่อสร้างโดยที่ไม่ผ่านขั้นตอนการทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เราก็คงต้องพึ่งศาลปกครองในขั้นตอนต่อไป"นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ ได้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่ายระหว่างภาครัฐในจังหวดสระบุรี ราษฎรจาก 5 หมู่บ้านรอบนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย ตำบลบ้านธาตุ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และผู้แทนจากของ บริษัท เอิร์ธ เทค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BWG และเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมขนาด 9.4 เมกะวัตต์ ที่จะก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย เพื่อหาข้อสรุปในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว หลังจากที่ผ่านมาโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมถูกต่อต้านจากชุมชนในพื้นที่อย่างรุนแรงจนไม่สามารถทำการก่อสร้างได้
โดยในการประชุมกลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้ายังคงยืนยันไม่ยอมให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจนกว่าจะผ่านเงื่อนไขที่กลุ่มผู้คัดค้านเสนอให้บริษัท เอิร์ธ เทค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด เจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ปฏิบัติให้ครบถ้วนก่อน
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรมโรงแรกของประเทศไทย ขนาด 9.4 เมกะวัตต์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท โดยโครงการได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเริ่มการก่อสร้างเมื่อเดือนก.ค.58 และมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ในกลางปี 59 ในระบบให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed in Tariff) หรือ FiT อัตราค่าไฟ 6.78 บาท/หน่วยใน 8 ปีแรก และอยู่ที่ระดับ 6.08 บาท/หน่วย ใน 12 ปีถัดไป