และปีหน้าพร้อมบุกตลาดสื่อดิจิตอลด้วยคอนเท้นท์ที่ซีทรูมีอยู่ในมืออย่างหลากหลาย พร้อมตั้งเป้านำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) ในปี 61 หลังจากปีนี้พลิกกลับมามีกำไร โดยคาดว่าปีหน้าจะมีรายได้ราว 150 ล้านบาท จาก 50 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งรายได้หลักมาจากการจัด Event & Exhibition หรือมีสัดส่วนประมาณ 80% ขณะที่รายได้จากหนังสือนิตยสารหรือแมกกาซีนปรับลดลงมาที่ 20% โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 30-40% ต่อปีและคาดว่าจะทำกำไรได้ต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ นิตยสารในเครือของซีทรูมีทั้งหมด 6 ฉบับ ได้แก่ นิตยสารอิมเมจ (IMAGE), นิตยสารมาดามฟิกาโร (MADAME FIGARO), นิตยสารเฮอร์เวิลด์(HER WORLD), นิตยสารแม็กซิม(MAXIM), นิตยสารแอตติจูด(ATTITUDE) และนิตยสาร อิน แมกาซีน(IN MAGAZINE)
"เรามีคอนเท้นท์ ทั้งเรื่องแฟชั่น การท่องเที่ยวนำมาทำการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปีหน้ารายได้จาก EVent&Exhibition จะเป็นรายได้หลัก และเราตั้งเป้าอีก3ปีจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ ...เราเชื่อว่าเราจะสามารถเติบโตไปได้ ปีหน้าเราจะบุกตลาดที่มีโจทย์แล้ว 2-3ราย เราจะสร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการมีเดียและวงการอีเว้นท์". นายธรรศพลฐ์ กล่าวในงานเปิดตัวภาพลักษณ์นิตยสารในเครือทั้ง 6 ฉบับ
ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย. 59 บริษัทมีแผนนำคอนเท้นท์ของนิตยสารทั้ง 6 ฉบับขึ้นแพลตฟอร์มในรูปดิจิตอล อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่าสื่อสิ่งพิมพ์เป็นขาลง แต่จะนำคอนเท้นท์เข้าสู่ดิจิตอล โดยตลอด 11 ปีซีทรูมีประสบการณ์ด้านสื่อสร้างสรรค์และบริหารอีเว้นท์
นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นลูกค้าของซีทรูมา 10 ปีและวันนี้เขาได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทซีทรู ด้วยเงินลงทุน 45ล้านบาท โดยเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดว่าจากการดำเนินธุรกิจในทิศทางใหม่จะทำให้สามารถคืนทุนได้ในเวลา 2 ปี
ด้านนายกฤตพัฒน์ ศุภทนต์ กรรมการผู้จัดการ. บริษัท ซี ทรู จำกัด กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการุกตลาดของซีทรูครั้งนี้จะทำให้ซีทรูก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตสื่อสร้างสรรค์และบริหารงานอีเว้นท์ครบวงจรในระดับประเทศ และยังมองไกลถึงระดับนานาชาติต่อจากนี้ โดยมีพาร์ทเนอร์อย่าง OOKBEE, IQNECT, Next Cover และจะทำให้เรามีครบทุกช่องทางการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย