GLOBAL มั่นใจปีนี้รายได้โตเข้าเป้า 10-15%,ดันเฮ้าส์แบรนด์-เล็งขยายตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 8, 2015 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) ผู้ประกอบการค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน มั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย 10-15% จาก 1.6 หมื่นล้านบาทในปี 57 ซึ่งเป็นการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม(SSSG)และการเปิดสาขาใหม่ โดยในปีนี้วางเป้าหมายจะใช้งบกว่า 2 พันล้านบาทเพื่อเปิด 7-8 สาขาใหม่ ขณะเดียวกันจะรุกการขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยหนุนอัตรากำไรให้ได้ดีขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะขยายงานในต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตในเมียนมาร์ และลาว อาจจะเห็นความชัดเจนได้ในปีนี้

ขณะที่มองช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทน่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการเงินอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ รวมถึงมีมาตรการผ่อนปรนการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างให้สามารถใช้เงินได้เร็ว ก็จะมีผลต่อกำลังซื้อโดยทันที อย่างไรก็ตามยังมีความเป็นห่วงที่เป็นช่วงฤดูฝนอาจทำให้การใช้เงินในงานก่อสร้างอาจจะติดขัดไปบ้าง

"ถ้าไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเราก็ไม่ได้มองแย่ไปตลอด เพราะในวิกฤตก็มีโอกาส ไม่ได้แย่มาก เศรษฐกิจอาจชะลอการโต หรือโตต่ำหน่อย แต่ก็ไม่ได้แย่มาก ช่วงที่เหลือของปีนี้ ความกังวลหมดไปแล้ว ช่วงที่สภาพเศรษฐกิจยังนิ่งๆอยู่ ก็ปรับปรุงระบบการทำงานของเราค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งก็เป็นผลดี"นายวิทูร กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

นายวิทูร กล่าวว่า รายได้ที่เติบโตในปี้นี้เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (Same Store Sales Growth:SSSG) ที่เป้าหมายในปีนี้อยู่ที่ 2-3% ตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของประเทศ โดยในช่วงไตรมาส 2/58 ตัวเลข SSSG อยู่ที่ 2-3% ครึ่งปีหลังก็น่าจะโตได้ต่อเนื่อง โดยจะพยายามรักษา SSSG ให้อยู่ในระดับเดียวกับจีดีพี โดยครึ่งแรกมีรายได้รวม 9,233 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขาย 8,950 ล้านบาท เติบโต 11.57% เป็นผลจากยอดขายสาขาเดิมและการเปิดสาขาเพิ่ม 5 สาขา และมีกำไรสุทธิ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.44%

ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่ม 7-8 สาขา ด้วยงบลงทุนขยายสาขากว่า 2 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดสาขาใหม่แล้ว 5 สาขา และวันที่ 5 ก.ย.นี้ได้เปิดเพิ่มที่ จ.นครนายก และไตรมาส 4/58 เปิดที่ จ.ยโสธร,ปราณบุรี และบึงกาฬ ซึ่งก็จะทำให้สิ้นปีมีครบ 40 สาขา เน้นเปิดต่างจังหวัดเป็นหลัก ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลก็ยังมองหาที่ดินเพื่อเปิดสาขาเพิ่มด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ลงทุนก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นคลังสินค้าแห่งแรกของบริษัท ด้วยงบลงทุน 500 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 58 หรือต้นปี 59 เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคตเป็น 100 สาขา โดยมีพื้นที่ 100 กว่าไร่ ซึ่งเฟสแรกจะมีพื้นที่ใช้งานกว่า 20,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) โดยการเปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้เพื่อกระจายสินค้าเป็นหลักจากเดิมที่ยังไม่มีศูนย์กระจายสินค้าเลย สำหรับแหล่งเงินลงทุนมาจากเงินภายในของบริษัทส่วนหนึ่งและเงินกู้เพิ่มจากสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทยังมีศักยภาพในการกู้ยืมเพราะปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง 0.4 เท่า

นายวิทูร กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเติบโตดีขึ้นจากการขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์มากขึ้น และคาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3/58 แม้ว่ายอดขายจะไม่ดีเท่ากับในไตรมาส 2 ก็ตามเพราะเป็นช่วงโลว์ของธุรกิจก็ตาม แต่การรุกขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 16% จาก 15.7% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าสัดส่วนยอดขายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ในสิ้นปีนี้อาจแตะ 12% จาก 10-11% ในขณะนี้ หลังพบว่ายอดขายรายเดือนขยับเพิ่มขึ้นย่างต่อเนื่อง

"ยอดขายไตรมาส 3 เทียบไตรมาส 2 จริงๆ แล้วก็ไม่คิดว่าจะดีขึ้น เพราะเป็น low season ของงานก่อสร้างอยู่แล้ว แต่เทียบไตรมาส 3/57 ก็จะยังโตอยู่ได้ และไตรมาส 4 บริษัทเตรียมออกแคมเปญใหญ่ 1 แคมเปญ เพื่อกระตุ้นตลาดในไตรมาส 4 และจะมีการปรับสินค้านิดหน่อย ขณะเดียวก็ยังดำเนินกลยุทธ์ผลักดันสินค้าเฮาส์แบรนด์"นายวิทูร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาไปยังต่างประเทศ เน้นประเทศเพื่อนบ้านเป็นผลัก โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างขอใบอนุญาตดำเนินงาน(ไลเซ่นส์)ในเมียนมาร์และลาว ซึ่งอาจจะได้เห็นในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ