ขณะเดียวกันบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ปี 58 จะเติบโตอยู่ราว 10% จากเดิมคาดโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% จากครึ่งปีแรกที่ยอดขายปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังนี้จะมียอดขายเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะเป็นไปตามฤดูกาลขาย
ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) ราว 240 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 70-80% ของงานในมือ และบริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นรับงานติดตั้งระบบในอุตสาหกรรมเคมี จำนวน 40 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปลายปีนี้ถึงต้นปี 59 อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้มาจากงานติดตั้งระบบดับเพลิง หรืองานขายสินค้าและบริการประมาณ 16% และการขายผ่านร้านค้า ผู้รับเหมาอีกราว 84%
"ปีนี้เรามีการเพิ่มกำลังคน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเร็ว ส่งผลทำให้การทำกำไรปีนี้ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่ยอดขายก็น่าจะโตได้ราว 10% จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% เป็นผลจากยอดขายลดลง"นายวิรัฐ กล่าว
สำหรับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศนั้น บริษัทฯได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชาเป็นแห่งแรก โดยร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นและพันธมิตรในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดกัมพูชา ซึ่งฝั่งคนไทยจะถือหุ้นในสัดส่วน 60% และพันธมิตรท้องถิ่น 40% โดยจะเป็นการเข้าไปจัดตั้งสำนักงาน เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า น่าจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบได้ในปีหน้าเป็นต้นไป คาดใช้งบลงทุนประมาณ 10-20 ล้านบาท และน่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 5-10% ภายในปี 59
ขณะที่บริษัทฯอยู่ระหว่างมองหาการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสนใจพม่าและลาว มองว่าจะเข้าลงทุนในลักษณะเดียวกันกับกัมพูชา
ส่วนการขยายสาขาต่างจังหวัดที่ จ.ระยอง จากแผนเดิมที่จะสามารถเริ่มได้ในไตรมาส 3/58 นั้นบริษัทฯน่าจะเลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายปี 58 เนื่องจากบุคคลากรยังไม่พร้อม แต่ยืนยันว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างช้าที่สุดคือต้นปี 59