ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ในประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าประเภทอาหาร และมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก มองว่าการมีพันธมิตรดังกล่าวเข้ามาทำงานร่วมกันจะส่งผลให้บริษัทมีงานด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และทำให้ปัจจุบันบริการของให้กับลูกค้าในอเมริกาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น คาดว่าน่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวน 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์
"บริษัทจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ารายใหม่ออกไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดหลักในสหรัฐฯ ตลาดรองในแถบเอเชีย และเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รวมถึงกลุ่มประเทศ AEC"นางอารยา กล่าว
ส่วนการขยายงานโลจิสติกส์ในประเทศ บริษัทฯเริ่มรับงานบริหารจัดการคลังสินค้าให้กับลูกค้า คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 15 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ต้งแต่ไตรมาส 4/58 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯมีแผนจะขยายบริการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการบริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
นางอารยา กล่าวอีกว่า บริษัทยังมั่นใจว่ากำไรในปี 58 จะเติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไร 62 ล้านบาท แม้ว่าครึ่งปีแรกจะมีกำไรเพียง 27 ล้านบาท แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการรับรู้งานใหม่เข้ามา และการขยายตลาด
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 20% หรืออยู่ที่ 800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 670 ล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากการขนส่งระหว่างประเทศ 80% และรายได้จากงานให้บริการพิธีการศุลกากร และขนส่งในประเทศอีก 20% ขณะที่ในอนาคตบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากงานให้บริการจัดการคลังสินค้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ซึ่งเบื้องต้นในปี 59 น่าจะมีรายได้จากการบริการจัดการคลังสินค้าเข้ามาไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
"ภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯมองว่าจากการที่มีครม.ใหม่เข้ามา น่าจะทำให้ภาพรวมตลาดปรับตัวดีขึ้น และน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศ ให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตในการนำเข้าและส่งออก รวมถึงความคร่องตัวของการดำเนินธุรกิจดังกล่าวด้วย โดยเรายังคงเป้าหมายรายได้น่าจะเติบโตได้ราว 20%"นางอารยา กล่าว
สำหรับแผนการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ราว 250 ล้านบาท โดยเพิ่งได้ข้อสรุปในการจัดซื้อรถบรรทุกหัวลาก-หางพ่วง และจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้ในการขยายลานจอดรถบรรทุกหัวลาก-หาง และลานพักตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อให้บริการลูกค้าในการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ โดยจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4/58 ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้จากการขนส่งทางรถและการให้บริการรับฝากตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นตาม คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากงานส่วนดังกล่าวภายในไตรมาส 1/59
อีกทั้งได้เตรียมจัดซื้อที่ดินแห่งใหม่ประมาณ 10-20 ไร่ สำหรับการก่อสร้างคลังสินค้าขนาดพื้นที่ 9 พันตารางเมตร บริเวณใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง