"ในอนาคตปตท.จะเข้าสู่พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ซึ่งจะไม่สามารถอุดหนุนราคาพลังาน หรือขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุนได้ ซึ่งทางรัฐมนนตรีพลังงาน ก็มีความเข้าใจเรื่องดังกล่าว ส่วนการตัดสินใจหรือนโยบายจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน โดยที่ผ่านมาปตท. ต้องแบกรับภาระขาดทุนจากการอุดหนุนราคา NGV มาแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท"นายเทวิทร์ กล่าวภายหลังจากการที่รมว.พลังงานได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมงานปตท.
นายเทวินทร์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ คนใหม่ของ PTT วันนี้เป็นวันแรก ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการขายกิจการปาล์มในอินโดนีเซียว่า ที่ผ่านมาปตท.ได้ขายพื้นที่ปาล์มไปแล้วจำนวน 3 แปลง และคงเหลืออีก 2 แปลง อยู่ระหว่างการดำเนินการขายกิจการ โดยปตท.จะทยอยขายกิจการปาล์มอินโดฯออกจนหมด และมีนโยบายที่จะไม่ลงทุนธุรกิจปาล์มอีก
ด้านพล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ปตท.เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีส่วนสำคัญด้านพลังงาน แต่ในยุคนี้ทุกบริษัทก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ปตท.นับว่าเป็นองค์กรชั้นนำอยู่แล้ว ขณะที่ในส่วนของการลงทุนธุรกิจปาล์มอินโดฯนั้นปตท.ได้ยกเลิกธุรกิจดังกล่าวไปแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร