อย่างไรก็ตามมองศักยภาพการเติบโตของประเทศดังกล่าวยังมีโอกาสการขยายตัวสูง ทำให้บริษัทฯสนใจที่จะเข้าไปลงทุน อีกทั้งยังมาจากธุรกิจสื่อออนไลน์ เช่น การติดตั้ง free wifi บนรถ BUS และสื่อบนตู้เติมเงินบุญเติม รวมถึงการจับมือทางธุรกิจ เพื่อแบ่งปันรายได้ร่วมกัน (Step-out opportunities) ซึ่งขณะนี้ก็มีการเจรจาอยู่กับบริษัทหลายราย แต่ยังไม่มีข้อสรุป
"ภาพรวมของดิจิตอล out door ในอีก 5 ปีข้างหน้า ยังคงมีความท้าทาย และการแข่งขันสูง ซึ่งการแข่งขันจะเน้นในเรื่องของรูปแบบการนำเสนอ Content ที่มีความหลากหลายมากขึ้นในทุกๆสื่อ โดยเราก็มีการวางแผนขยายเข้าไปทำธุรกิจสื่อนอกบ้าน เน้นในประเทศกลุ่มอาเซียนเป็นหลัก ซึ่งมีความสนใจใน 4 ประเทศ คือมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นต้น ขณะที่ในประเทศเราก็มีการลงทุน เน้นสื่อโฆษณานอกบ้าน ขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้"นายปรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้จะมีโอกาสเติบโตเป็น 3,019 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นรายได้ในส่วนของบริษัทฯประมาณ 2,519 ล้านบาท ขณะที่ก็จะมีรายได้จากบริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด เข้ามา ทำให้เป้าหมายรายได้น่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จากปีก่อนมีรายได้ 1,460 ล้านบาท และ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจบุน บริษัทฯสามารถทำรายได้ได้แล้วกว่า 1,900 ล้านบาท โดยมองแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีรายได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากไตรมาส 3/58 และไตรมาส 4/58 จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ และตั้งเป้ารายได้ในปี 63 จะเติบโตแตะ 5,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการขยายธุรกิจสื่อนอกบ้านทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้บริษัทฯมองอุตสาหกรรมภาพรวมในปีนี้มีการเติบโตมากขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีผลกระทบในเรื่องของการเมืองและเศรษฐกิจ โดยบริษัทฯยืนยันว่าจะมีการเติบโตได้มากกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจทีชะลอตัวมากนัก เนื่องด้วยบริษัทฯมีการป้องการความเสี่ยง โดยจะมีการเซ็นสัญญางานระยะยาวที่มีอายุเฉลี่ย 9-10 ปี ประกอบกับปัจจุบันมีสัญญางานมากกว่า 150 สัญญา ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง