สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีปริมาณการขายยางมะตอยที่ระดับ 2.3 ล้านตัน ขณะที่ราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันสวนทางกับราคาขายยางมะตอยที่ยังอยู่ในระดับสูงเพราะความต้องการใช้มากกว่าปริมาณการผลิต ทำให้มาร์จิ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"เรามั่นใจกำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเรามีกำไรสุทธิแล้ว 2.4 พันล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตเท่าตัวแล้ว และในช่วงที่ผ่านมาเราไม่เคยมีกำไรสุทธิถึง 2 พันล้านบาทมาก่อน ซึ่งปีนี้เราได้ประโยชน์หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ราคาขายยังคงที่ และส่วนลดคงที่ไม่ว่าน้ำมันจะขึ้นหรือลงมากแค่ไหน"นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นยางมะตอยในประเทศมาเลเซียเพิ่มเป็น 5 หมื่นบาร์เรล/วัน จาก 3 หมื่นบาร์เรล/วันในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 62 ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตราว 90%
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างสั่งต่อเรือใหม่อีก 3 ลำ แบ่งเป็น ขนาด 1 หมื่นตัน มูลค่า 28 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะได้รับเข้ามาในปี 61 และขนาด 4-5 พันตัน อีก 2 ลำ มูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ/ลำ โดยจะทยอยรับในปี 61-62 จากปัจจุบันบริษัทมีกองเรืออยู่ 9 ลำ และเช่าอยู่ 3 ลำ
"เราอยู่ระหว่างเตรียมการขยายกำลังการผลิต และเพิ่มกองเรือใหม่อีก เพื่อที่จะเป็นการรองรับการขยายไปทั่วโลก จากปัจจุบันเรามีการขายไปเพียงในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันเราอยู่ระหว่างเตรียมแผนระยะยาวถึงปี 63 และจะสรปุแผนภายในเดือนพ.ย. นี้ "นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ปี 59 บริษัทจะรขยายธุรกิจใหม่ โดยล่าสุดได้เข้าเซ็นสัญญากับ บริษัท SK Energy เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเครื่องให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัท ในประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าอยู่ราว 200 บริษัท