เอเชีย เวลท์ คาด SET Index ไม่ลงมากหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย/แนะลงทุน AAV

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2015 14:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ให้กรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index) ที่ระดับ 1,360-1,403 จุด โดยมองว่าที่ผ่านมา SET Index ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เลวร้ายอีก ดังนั้น จึงคาดว่าแม้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้จริง SET Index ก็ไม่น่าจะปรับลดลงมากนัก

สัปดาห์นี้ ตลาดยังมีความกังวลในเรื่องการจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันพุธนี้ ซึ่งจะรู้ผลในวันพฤหัสบดี ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้ 50:50 ในการที่เฟดจะขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย โดยหากเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยก็จะมีเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) รวมถึงประเทศไทยจำนวนหนึ่ง แต่คิดว่าไม่มากนัก เนื่องจากเฟดได้ส่งสัญญาณเรื่องนี้มานานพอสมควร และเม็ดเงินส่วนใหญ่ได้ไหลออกจาก Emerging market ไปกว่า 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วตั้งแต่ต้นปีนี้

นายวรุฒน์ คาดว่า การที่เงินทุนไหลออกหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะทำให้นับจากนี้ไปตลาดจะถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐาน(Fundamental driven)มากขึ้น จากเดิมที่ตลาดขับเคลื่อนหลักโดยสภาพคล่อง(Liquidity driven)มาหลายปีจากการไหลของเงินทุนโลกเข้าตลาด Emerging market จากเม็ดเงิน QE จากสหรัฐ

นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน การประชุมธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่า BOJ น่าจะรอผลของการประชุมเฟดในครั้งนี้ ด้านไทยเองจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธ คาดว่าน่าจะคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากช่วงนี้นโยบายทางการเงินจะมีผลค่อนข้างน้อย ประเทศไทยจะใช้นโยบายทางการคลังซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยตรงมากและเร็วกว่าในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่ ครม. ใหม่ได้เสนอมาตรการไปแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามผลกันต่อไป

ด้านจีน เมื่อวันอาทิตย์ ได้มีการประกาศตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งยังโตอยู่แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่เนื่องจาก ตลาดคาดว่าในที่สุดทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดังนั้น ความคาดหวังตรงนี้ ทำให้ตลาดหุ้นจีนไม่น่าจะปรับตัวลดลงมากเหมือนก่อนหน้านี้ และน่าจะมีลุ้นในการปรับตัวขึ้นอีกด้วยในระยะต่อไป

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำลงทุนในหุ้นของ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น(AAV) หรือสายการบินแอร์ เอเชีย โดยมองว่าได้รับประโยชน์จากการเติบโตของนักท่องเที่ยว ผู้ใช้สนามบิน และผู้โดยสาร ที่ฟื้นตัวจากปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย 30 ล้านคน มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 28.8 ล้านคน โดยในรอบ 7 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วถึง 17.5 ล้านคน และแม้จะมีเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงไม่ลด และคาดว่าในไตรมาส 4 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกจำนวนมาก

จาก Bloomberg consensus บรรดานักวิเคราะห์ได้คาดว่าปีนี้ AAV จะมีกำไรเติบโตที่ระดับสูงถึง 878% จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และคาดว่าจะโตอีก 17% ในปี 59 อนึ่งในปีนี้ คาดว่า AAV จะมีการจ่ายเงินปันผลเป็นปีแรกโดยมี Dividend Yield อยู่ที่ระดับ 2.2% นอกจากนี้ AAV กำลังขยายกิจการโดยเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังอินเดีย และจะทำให้สนามบินอู่ตะเภาเป็น hub ใหม่ของสายการบินอีกด้วย พร้อมเตรียมรับเครื่องบินเพิ่มอีก นอกจากนี้ AAV ยังได้รับผลกระทบเชิงบวก จากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงต่ำลงด้วย

ด้านความกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินที่ ICAO เข้ามาตรวจสอบและอาจโดนลงโทษห้ามบินเข้าสหรัฐและยุโรป ตรงนี้ AAV ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจาก มีเส้นทางการบินระยะไกลที่สุดตอนนี้ คือ จีน เท่านั้น

“สัญญาณทางเทคนิคของ AAV ได้ส่งสัญญาณซื้อรายวัน และมีโอกาสที่ราคาจะไปปิด Falling gap ที่ระดับ 4.76บาท หากผ่านได้ก็จะไปได้ถึง 4.96บาท ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น ด้านราคาเป้าหมายด้านปัจจัยพื้นฐานจาก Bloomberg consensus ให้ไว้ที่ระดับ 5.73 บาท" นายวรุตม์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ