บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) มูลค่าเหมาะสมที่ 2.12 บาท สถานการณ์ยังคงท้าทาย แต่ส่วนที่ยากที่สุดได้ผ่านไปแล้ว หลังจาก MILL ชนะการประมูลทรัพย์ โรงเหล็กลวด TSSI และอยู่ระหว่างจัดตั้ง JV ร่วมกับ KOBE Steel เพื่อผลิตเหล็กเกรดพิเศษ ผลักดันมาร์จิ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้การประมูล TSSI มาในราคาต่ำ MILL สามารถใช้ Hidden Asset นี้ในการลดภาระหนี้ และเป็นแหล่งเงินลงทุน
ใน 4Q58 MILL จะตัดขายโรงงาน Wire Rod พร้อมที่ดิน 92 ไร่ ให้กับ MSS ในราคาราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสที่ MILL จะบันทึกกำไรพิเศษได้ราว 900 ล้านบาท หาก MILL เลือกบันทึกบัญชี MSS เข้ามาในรูป Equity Method
MILL อยู่ระหว่างกระบวนการขายที่ดินเดิมของ TSSI จำนวน 180 ไร่ที่ราคา 1,314 ล้านบาทให้กับ GEL ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 4Q58 โดย MILL จะบันทึกกำไรประมาณ 946 ล้านบาท (อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบจากการประชุมผู้ถือหุ้น18 ก.ย. นี้)
โดยเงินที่ได้รับจาก 2 ธุรกรรมข้างต้นประมาณ 4,000 ล้านบาท รวมกับเงินที่ได้รับคืนจากกรมบังคับคดีอีกประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนใหญ่ MILL จะนำไปชำระหนี้ และเมื่อประกอบกับการที่ MILL จะรับรู้กำไรพิเศษข้างต้นราว 1,800 ล้านบาท MILL จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 584 ล้านบาทได้ทั้งหมด รวมแล้วจะทำให้ Net D/E ที่สูงราว 2.2 เท่า ลดลงมาอยู่ที่ 1 เท่า นอกจากนี้ที่ดินของ TSSI ที่ MILL ไม่ได้ใช้ประโยชน์อีก 300 ไร่ที่มีมูลค่ามากถึงราว 2,000 ล้านบาท จะเป็นแหล่งเงินทุนให้ MILL ได้ใช้ขยายกิจการในอนาคต
ด้านแนวโน้มผลประกอบการ Turnaround มอง MILL ไม่ควรซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ โดยผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้ม Turnaround ตั้งแต่ปี 59 หนุนโดยปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น 26% YoY จากโรงฯ MSS และ MILLCON Engineering ในพม่า ขณะที่การเติบโตในระยะกลางขึ้นไป จะถูกผลักดันด้วยสัดส่วนเหล็กเกรดพิเศษที่ค่อยๆ ขยับขึ้นเป็นราว 20% ของปริมาณการผลิตรวมตลอดช่วง 3 ปี ข้างหน้า