นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SCI เปิดเผยว่า การเดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) เพื่อให้นักลงทุนสถาบันในฮ่องกง และสิงคโปร์ ได้เข้าใจในธุรกิจของ SCI ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน และการโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนทั่วไปใน 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก , เชียงใหม่ , ชลบุรี , ขอนแก่น ,หาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 7-11 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน และแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
“เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในไทย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทในอนาคต" นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า สำหรับแผนลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในเมียนมาร์ จะร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งมีสัดส่วนลงทุนไม่น้อยกว่า 40% มูลค่าลงทุนทั้งหมด 26 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ในปี 2559
ส่วนการลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 45 เมกะวัตต์ จะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรในสัดส่วนประมาณ 30% ของมูลค่าลงทุนทั้งหมดราว 3.5-3.7 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มใช้เงินทุนราวปี 2559 เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันยังมีแผนนำเงินไปลงทุนโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า (PDSR) เฟส 2 ในลาว มูลค่าโครงการ 67 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการได้ประมาณไตรมาส 4/58
“การขยายการลงทุนในเมียนมาร์และลาว เป็นการเตรียมพร้อมขยายธุรกิจ เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะมีเกิดขึ้นภายในปลายปีนี้ และเป็นการเพิ่มที่มาของรายได้และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน" นายเกรียงไกร กล่าว
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเดินสายโรดโชว์ทั้งในต่างประเทศและใน 5 จังหวัดทั่วประเทศของ SCI ในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนได้เข้าใจธุรกิจของบริษัท รวมถึงได้เห็นศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในอนาคต ที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะการขยายตลาดไปยัง AEC ที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก ซึ่งผลการโรดโชว์ในครั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี และมั่นใจว่า SCI จะเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ SCI มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน IPO จำนวน 187.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทภายหลัง IPO โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2558