อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มต้น บริษัทจะเริ่มผลิตเหล็กลวดเกรดธรรมดา ที่จะสามารถผลิตได้ทันที จากนั้นก็จะพัฒนาไปผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยคาดว่าในปีหน้าจะเห็นการผลิตเหล็กลวดได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อภาพรวมผลประกอบการของกลุ่มมิลล์คอน สตีล ให้มีอัตราการเติบโตของรายได้แบบก้าวกระโดด เพราะการผลิตเหล็กเกรดพิเศษ จะมีมาร์จินที่สูงกว่า
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เซ็นสัญญา บันทึกความร่วมมือ หรือ MOU กับ บริษัท โกเบ สตีล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษชั้นนำ ของญี่ปุ่น และของโลก เพื่อเดินหน้าธุรกิจเหล็กลวดเกรดพิเศษ ป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียนด้วย
สำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยมีการผลิตอยู่ที่ 1.88 ล้านคัน ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะสูงถึง 3 ล้านคันในปี 63 และนอกจากความต้องการในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยแล้ว ก็ยังมีโอกาสขยายตลาดเหล็กลวดเกรดพิเศษ ประเภทนี้ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านผู้ผลิตยานยนต์อื่น เช่น อินโดนีเชีย และมาเลเซีย ซึ่งในปัจจุบันต้องนำเข้าเหล็กลวดเกรดพิเศษทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีผู้ผลิต ที่มีศักยภาพเพียงพอโดยการผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษนั้น ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ซึ่ง MILL นับเป็นผู้ผลิตรายแรกของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ที่มีความพร้อมในการยกขีดความสามารถการผลิตเหล็กลวดเกรดพิเศษดังกล่าว