นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้าตามตลาดสหรัฐฯ โดยกลุ่มพลังงาน Rally หลังจากที่สต็อคน้ำมันของสหรัฐฯลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด และตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในงวดนี้ โดยให้น้ำหนัก 50%
ทั้งนี้ วันนี้ตลาดบ้านเราก็คงจะได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเช่นเดียวกัน แต่การปรับตัวขึ้นของดัชนีฯคงจะไม่แรง เนื่องจากยังจับตาผลประชุมเฟดอยู่
พร้อมให้แนวรับ 1,375-1,368 จุด ส่วนแนวต้าน 1,392-1,400 ถัดไป 1,410-1,430 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(16 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,739.95 จุด พุ่งขึ้น 140.10 จุด(+0.84%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,889.24 จุด เพิ่มขึ้น 28.72 จุด(+0.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด(+0.87%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 190.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 20.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 206.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 44.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 23.81 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ก.ย.58)1,381.80 จุด เพิ่มขึ้น 11.15 จุด(+0.81%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 388.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ก.ย.58) ปิดที่ 47.15 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.56 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ก.ย.58)ที่ 8.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.84 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน ตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ย
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการภาษีถาวรเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะสรุปแล้วเสร็จเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้พิจารณาภายในสิ้นปีนี้ โดยการลดภาษีที่เกี่ยวข้องประมาณ 3-4 ประเภทลงจากอัตราจัดเก็บปัจจุบันเป็นอัตราใหม่ถาวร ประกอบด้วยภาษีเงินได้ ภาษีการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ ส่วนอัตราภาษีที่กำลังศึกษายังไม่ขอเปิดเผยตัวเลข
- เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุม บีโอไอ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการลงทุนในปี 2558-2559 โดยกำหนดให้กิจการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558-31 ธ.ค. 2559 ที่มีการดำเนินการจริงทั้งการผลิตและการบริการภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการดังกล่าว
- ก.คลังหวังปฏิรูปจัดซื้อจัดจ้างเป็นระบบอีมาร์เก็ตหรืออีบิดดิ้งลดรอยรั่ว ช่วยประหยัดเงินมหาศาล เผย 8 ปี เงินลงทุนภาครัฐ 8-9 ล้านล้านบาท ลดได้ 10% เท่ากับ 9 แสนล้านบาท ยัน 1 ต.ค. เริ่มใช้กับโครงการ 2 ล้านบาทขึ้นไป ด้านองค์กรต้านคอร์รัปชั่นไม่เชื่อป้องกันทุจริตได้หมด
- กนง.มีมติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ย้ำเป็นระดับต่ำเพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว จ่อปรับจีดีพี 25 ก.ย.นี้ คาดโตต่ำกว่า 3% "คลัง" รุกคืบลดภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ หวังเสนอ ครม.ภายในปีนี้ หุ้นเด้งรับปิดบวก 11 จุด ยืนเหนือ 1,380 อีกรอบ
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTT(เคเคเทรด)เป้า 363 บาท Valuation ถูก ซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.97 เท่า, มี Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้
- LH (เคเคเทรด)เป้า 10 บาท ยอด Presales ฟื้นตัวแรง +35% MoM (สูงสุดนับตั้งแต่ ก.พ.58) หนุนด้วยสินค้าแนวราบ ขณะที่ผลประกอบการ 4Q58 มีปัจจัยหนุนจากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน REIT ของ Terminal 21 ในส่วนของโรงแรม เราคาดปีหน้ากำไรกลับมาเติบโต 9% YoY เทียบกับปีนี้ที่คาดหดตัวแรง 24%
- LPN(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 18.50 บาท กำไรสุทธิปี 58 เติบโตสูงสุดในกลุ่ม โดยประมาณการไว้ที่ +35%YoY เพราะมีการโอนคอนโดเข้ามามาก ส่วนปี 59 คาดการณ์กำไรสุทธิขยายตัวต่อ 8% บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ในปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท โดย 1H58 เปิดขายไปแล้ว 4.8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเปิดขายใน 2H58 บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงราว 15-16% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.5 เท่า จ่ายปันผลสูง คาดการณ์ Dividend Yield ปี 58-59 เท่ากับ 5.5% และ 6.0% ตามลำดับ
- TUF(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 22.40 บาท ประกาศโครงการประกันราคากุ้งขั้นต่ำรับซื้อ 1.2 หมื่นตัน ระยะเวลา 6 เดือน (ต.ค.58-มี.ค.59)ใช้เงิน 1.5-2.0 พันล้านบาท คาดจะมีเกษตรกรเข้าร่วมราว 1.6 พันราย บริษัทคาดหวังจูงใจให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งมากขึ้นเพราะขายได้ในราคาไม่ขาดทุน ขณะที่บริษัทก็มีความมั่นคงทางวัตถุดิบมากขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 58-59 จะขยายตัว 13% และ 10% ตามลำดับ ปัจจัยที่ติดตาม คือ ความคืบหน้าของดีลการเข้าซื้อ Bumble Bee
- SAPPE(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2016 ที่ 37 บาท ความสำเร็จคือการใช้วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของไทย(วุ้นมะพร้าว ว่านหางจระเข้)และด้วยรสชาติ การรุกตลาดเป็นเจ้าแรกๆ และมีพันธมิตรในการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง ทำให้ SAPPE จะเติบโตในตลาดส่งออกต่อไปได้ การขยายกำลังการผลิตอีก 30% สิ้นปีนี้ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น แต่กำไร 2H15 จะชะลอกว่าครึ่งปีแรกตามฤดูกาลและมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดในประเทศ จึงคาดกำไรสุทธิปีนี้โตเพียง 8.5% แต่จะเร่งตัวขึ้นเป็นโตเฉลี่ย 24.7% ในปี 2016-17