"เรามั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% จากเชื่อว่ากำลังซื้อจะเริ่มดีขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเข้าใช้บริการคลินิกทำฟันของเรา แม้ว่าในครึ่งปีแรกก็ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อหดตัวลงพอสมควร ซึ่งยอดขายตกลงไปถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในช่วงไตรมาส 4 นี้ จะมีการเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ก็คาดว่าจะส่งผลดีต่อรายได้ให้เป็นไปตามคาดการณ์"ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว
ทันตแพทย์วัฒนา คาดว่ากำลังซื้อในช่วงที่เหลือของปีน่าจะปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากการยอดการเข้าใช้บริการที่มีเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.นี้ และน่าจะดีต่อเนื่องไปจนถึงในไตรมาส 4/58 อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีนี้คงมีผลขาดทุน จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิราว 7 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งแรกปีนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 10.36 ล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนจากการเปิดสาขาใหม่ โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 21 แห่ง สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 30 แห่ง และเพิ่มเป็น 40 แห่งในปี 60 ตามเป้าหมาย ซึ่งจะผลักดันให้รายได้แตะ 1,000 ล้านบาทในที่สุด
สำหรับแผนการซื้อกิจการคลีนิกทันตกรรมนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดหรือประเมินได้ว่าจะสรุปเมื่อไหร่ แต่อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อกิจการจะมีระยะเวลาในการเจรจาอย่างน้อย 1 ปี ถึงจะสามารถสรุปได้ ขณะที่บริษัทยังมีเงินจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) เหลืออยู่ราว 30-40 ล้านบาท และมีหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.26 เท่า ซึ่งยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้หากเงินลงทุนไม่เพียงพอ