ทั้งนี้ สถานการณ์ภายนอกของการประชุมครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน เนื่องจากมีเรื่องค่าเงินสกุลต่างๆ ราคาน้ำมันปรับ ลงค่อนข้างแรง ธนาคารกลางยุโรป(ECB)ยังคงทำ QE แต่หากเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยคาดว่าน่าจะต้องการให้ผลตอบแทนพันธมบัตรสหรัฐ จูงใจมากขึ้น
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ ขึ้นอยู่กับผลประชุมเฟด หากยืนยันจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ อาจทำให้หุ้นรีบาวด์แต่ไม่มาก แต่หากเฟด เลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปปีหน้า คาดว่าหุ้นจะวิ่งไปไกล ให้แนวต้านไว้ที่ 905,920, 935-940 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 880, 870 จุด แนะนำหากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยแต่ยังยืนยันจะปรับขึ้นในปีนี้ให้ขายตามแนวต้าน แต่ถ้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ น่าจะเล่นเก็งกำไรเพิ่ม ได้
สำหรับราคาทองคำวันนี้ราคาทรงตัวบริเวณราคา 1,120 เหรียญ/ออนซ์ เพราะรอผลประชุมเฟดเช่นกัน แต่ราคาทอง ในประเทศจะรับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า หากเฟดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนตัว แต่หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในปี หน้า ราคาทองคำโลกปรับขึ้น แต่จะกดราคาทองคำในประเทศ ทำให้ราคาที่ปรับขึ้นได้ไม่เท่ากับทองคำโลก
ให้แนวต้านที่ 1,135 เหรียญ/ออนซ์ แนวรับที่ 1,100 เหรียญ/ออนซ์
ส่วน Gold Futures ให้แนวต้านไว้ที่ 19,300 บาท แนวรับที่ 18,900 บาท แนะนำถ้าราคาปรับขึ้นให้ขายออกไป ก่อน เพราะคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่ากดดดันราคาทองคำในประเทศ
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 904.51 จุด เพิ่มขึ้น 6.21 จุด, +0.69%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 187,486 1,093,834 Total Futures 186,168 1,073,126 SET50 Index 127,084 338,135 Sector Index - - Single Stock 48,580 698,183 Precious Metal 7,177 23,354 -GF10 6,600 20,365 -GF50 577 2,989 Curency 3,166 13,106 Energy 161 348 Interest Rate - - Total Options 1,318 20,708 Call 599 9,669 Put 719 11,039 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -2,425 +5,374 -2,949 Options +125 -9 -116