ดังนั้น บริษัทฯ ได้มีการทบทวนและปรับแผนการดำเนินงาน โดยเร่งดำเนินการ การออกโปรดักส์ใหม่ ๆ และหาลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม เพื่อให้เกิดสินเชื่อใหม่ ทดแทนสินเชื่อเดิมที่ลดลงในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยแนวโน้มในครึ่งปีหลังนี้จะเข้าสู่ช่วงฤดูข้าวนาปีที่จะมีการเก็บเกี่ยวข้าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของลูกค้า ที่จะมีการชำระเงินเข้ามาเพิ่มขึ้น จะเป็นผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในภาพรวม
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการทำธุรกิจร่วมกับบริษัท ยิปต้า จักรกลการเกษตร เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องรีดยางเครป และเครื่องสับยางพารายี่ห้อ “ยิปต้า” โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว เป็นเวลา 3 ปี และบริษัท คุนซัน แมชชีนเนอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องอบลดความชื้นเมล็ดพืช ยี่ห้อ “ซันกิ่ว”โดยบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 5 ปี
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 815 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้ น่าจะรักษายอดสินเชื่อไว้ให้ได้ประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับยอด ณ สิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา
นายสันติ กล่าวยอมรับว่าภัยธรรมชาติมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องการกระจายความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อ ให้มีความสมดุลกัน โดยในอนาคตบริษัทฯ ตั้งเป้า ปล่อยสินเชื่อหลัก ๆ เป็น 3 กลุ่ม ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ เครื่องจักรกลทางการเกษตรนาข้าว เครื่องจักรกลทางการเกษตรพืชไร่ และบริการทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯเติบโตอย่างมั่นคง
นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเมื่อบริษัทฯได้รับอนุญาตจะเป็นการขยายช่องทางในการทำธุรกิจมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในปีนี้การปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ น่าจะยังมีไม่มาก แต่น่าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นในปีหน้า
ส่วนสัดส่วนรายได้ของบริษัท แบ่งเป็นธุรกิจให้เช่าซื้อรถเกี่ยวข้าวประมาณ 82% และสินเชื่ออื่นๆอีก 18% เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์ เงินกู้ยืมมีหลักประกัน สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง เป็นต้น