อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในช่วงกลางสัปดาห์ จากความคาดหวังเรื่องนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบเหนือ 1,400 จุด ได้
"เราประเมิน SET อยู่ในกรอบ Trading เป็นสัปดาห์ที่ 3 นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน SET ให้ผลตอบแทนเพียง 0.6% โดยเป็นการแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,355-1,433 จุด ในภาวะที่ตลาดหุ้น Sideway กลยุทธ์การลงทุนยังต้องเป็นลักษณะขึ้นสูงขาย ลงมาซื้อ"นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงไกร กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนสำหรับหุ้นที่ปรับตัวลงมาแรง ซื้อขายด้วย Valuation ไม่สูง มีอัตราการจ่ายปันผลดี แต่อาจต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องการปรับลดผลการดำเนินงานในระยะกลาง ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัย ได้แก่ LPN, SPALI, PS, LH กลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ TOP, BCP ซึ่งค่าการกลั่นติดลบ แต่ราคาสะท้อนในปัจจัยพื้นฐาน โดยให้ IRPC เป็น Top Pick ในกลุ่มโรงกลั่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ TMB
สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยเรื่องการประมูลรองรับ ได้แก่ TPCH ซึ่งอยู่ระหว่างรอสรุปประมูลโรงไฟฟ้า 50 เมกะวัตต์, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มที่อยู่อาศัย, กระตุ้นการบริโภค ได้แก่ HMPRO, GLOBAL และการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐฯ ได้แก่ STEC, PYLON
ส่วนนักลงทุนระยะกลาง หาจังหวะซื้อ บริษัท KAMART, FORTH, PYLON, TPIPL, IRPC, NYT เมื่อตลาดมีการปรับฐาน