"หลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนเข้ามา เราจะนำไปใช้ขยายคลังสินค้า เพื่อรองรับการผลิตสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า และนำไปใช้ในการพัฒนาตัวสินค้าให้มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO 120 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ1.80 บาท จะทำให้ได้เงินมาประมาณ 216 ล้านบาทจะนำไปการขยายธุรกิจทั้งหมดเพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยไม่มีการแบ่งไปชำระหนี้แต่อย่างใด เพราะบริษัทไม่มีหนี้สินระยะยาว" นายนพชัย กล่าวในที่สุด
ด้านนางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน KOOL กล่าวว่า มั่นใจว่าราคาหุ้น KOOL ในการซื้อขายวันแรกจะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 1.80 บาท เพราะช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นปรากฎว่ามีนักลงทุนตอบรับดีเกินคาด คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกำหนดราคา IPO ที่เหมาะสม และมีส่วนลดให้สูงถึง 45% เมื่อเปรียบเทียบกับ PER ของตลาดหลักทรัพย์ mai โดยคำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ถือเป็นราคาที่นักลงทุนสนใจอย่างมาก
ประกอบกับ KOOL เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี สามารถทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศเกือบ 40 ประเทศ โดยยอดขายเติบโตควบคู่กันทุกปี โดยที่ 3 ปีที่ผ่านมารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 40% ขณะที่ 6 เดือนแรกของปีนี้รายได้เติบโตขึ้นประมาณ 40% และในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้นล่าสุดมีสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 14%