SENA คาดรับรายได้ TTRE ปี 59 หลังโซลาร์ฟาร์ม 46.5 MW เสร็จปลายปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2015 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) คาดว่าจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท ที ที รีนิวเอเบิ้ลเอนเนอร์ยี่ จำกัด (TTRE) ในปี 59 หลังโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ (MW) จะก่อสร้างจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่การรุกธุรกิจพลังงานของบริษัทถือเป็นการตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจได้อย่างลงตัว เพราะธุรกิจพลังงานทดแทนจะช่วยเพิ่ม Recurring Income (รายได้ประจำ) ให้แก่บริษัทเป็นมากกว่า 10% จากปัจจุบันที่ 8% ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อวานนี้ มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TTRE จำนวน 425,998 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99.9995 ของทุนจดทะเบียน ในราคาตามมูลค่าหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 425,998,000 บาท ซึ่ง TTRE ลงทุนในกิจการที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยร่วมกับบริษัท บี.กริมเพาเวอร์ จำกัด (BGP) เพื่อถือหุ้นของบริษัท บี.กริม ทีทีอาร์อี โซลาร์ เพาเวอร์ จำกัด (BGTTRE) ในสัดส่วนร้อยละ 51 และ 49 ตามลำดับ

BGTTRE ประกอบกิจการลงทุนในกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ขนาดกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนในส่วนของ TTRE ประมาณ 1,701.4 ล้านบาท จากมูลค่าเงินลงทุนของโครงการทั้งหมดประมาณ 3,336.0 ล้านบาท

"การตัดสินใจเข้าลงทุนใน TTRE เพื่อใช้เป็นตัวแทนในการลงทนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ SENA ในหลายๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่การทำให้มีแหล่งรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว โดยคาดว่าโครงการที่ TTRE ไปลงทุนจะได้กำไรในอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยมีผลตอบแทนโครงการประมาณ 11-14% ต่อปี อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำโครงการ Solar Farm ทำให้มีรายได้จากการประกอบการได้เร็วกว่าการเริ่มต้นขอใบอนุญาตต่างๆ และเริ่มลงทุนก่อสร้างด้วยตนเอง และที่สำคัญ SENA จะมีประสบการณ์จากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ต่อยอดการผลิตไฟฟ้า Solar Farm และ Solar Rooftop ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถต่อยอดกับธุรกิจอสังหาฯได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2559"นางเกษรา กล่าว

นางเกษรา กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ขึ้นอีก 351,760,533 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 882,749,924 บาท เป็น 1,234,510,457 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 351,760,533 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป โดยจะจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 262,763,037 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนถืออยู่ (Right Offering) และเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 87,587,679 หุ้น

ส่วนที่เหลืออีกจำนวนไม่เกิน 1,409,817 หุ้น จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท และ/หรือ บริษัทย่อย ครั้งที่ 4 (SENA-WD) และการปรับสิทธิสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่ออกให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย ครั้งที่ 1 (SENA-WA), ครั้งที่ 2 (SENA-WB) และครั้งที่ 3 (SENA-WC)

สำหรับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในส่วนที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมกำหนดราคาเสนอขายที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 50 ของราคาตลาด (คำนวณโดยอ้างอิงกับราคาซื้อขายถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 15 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน) และในส่วนของบุคคลในวงจำกัด กำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศ ทจ.28/2551 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่สจ.39/2551 เรื่องการคำนวณราคาเสนอขายหลักทรัพย์และการกำหนดราคาตลาดเพื่อการพิจารณาการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำ (ประกาศ สจ. 39/2551) อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัดนี้จะไม่ต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ