"ปีนี้ AUM ของเราเติบโตมาค่อนข้างมาก เพราะเราได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน และ นักลงทุนรายย่อยที่ให้ความสนใจ เข้ามาลงทุนในกองทุนของเราจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมาเราสามารถบริหารจัดการ และเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนมากกว่าตลาดเสมอๆ จะเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าภาวะต่างๆทั้งใน และต่างประเทศจะไม่ดีนัก แต่เราก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้อย่างดี" นายวิน กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,280-1,500 จุด โดยมองว่าดัชนีจะอยู่ในรูปแบบของการ Side way ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 59 เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุนดัชนีตลาดฯให้ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ปัจจัยลบต่างๆยังอยู่ คือการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ยังชะลอตัว ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรก็ยังตดต่ำ แต่อย่างไรก็ตามยังแนะนำให้พิจารณาเลือกเข้าลงทุนในช่วงดัชนีลงมาอยู่ที่ 1,280 จุด
ทั้งนี้เชื่อว่าการลงทุนโครงส้รางพื้นฐาน และการเบิกจ่ายภาครัฐฯจะออกมา แม้ว่าจะมีการชะลอตัวไปบ้าง จึงแนะว่าควรเลือกซื้อหุ้นในกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆของภาครัฐฯ อาทิเช่น รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง รวมถึงหุ้นกลุ่มที่ให้อัตราปันผลสูงอย่างกลุ่มสื่อสาร หรือ ลงหุ้นในกองทุน LTF-RMF เนื่องจากเป็นการหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาดที่มีอยู่ค่อนข้างสูงในปัจจุบันอีกทั้งยังได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงหากลงทุนในระยะยาว