โรงงานแครกเกอร์แห่งนี้ มีกำลังการผลิตเอทิลีนราว 370,000 ตันต่อปีและโพรพิลีน 30,000 ตันต่อปี สามารถแปรรูปวัตถุดิบทั้งประเภทอีเทนและโพรเพน อินโดรามา เวนเจอร์สเป็นผู้ผลิตเอทิลีนออกไซต์บริสุทธิ์ (PEO) และโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) รายหลักในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เอทิลีนเป็นวัตถุดิบ โดยตั้งเป้าหมายจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปี 60
“เรารู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะเข้ามาเป็นส่วนที่ทำให้กลยุทธ์หลักของเราในการบูรณาการในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความแข็งแกร่งและความได้เปรียบด้านต้นทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา ช่วยให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น เมื่อช่วงต้นปีไอวีแอลเข้าซื้อกิจการผลิต PTA กำลังการผลิต 600,000 ตันต่อปีในอเมริกาเหนือ ซึ่งปัจจุบันไอวีแอลมีการบูรณาการตลาดภายในประเทศในทั้ง 3 ภูมิภาคหลักที่มีการดำเนินธุรกิจ"นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม IVL กล่าว
นายโลเฮีย กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการนี้ทำให้กลุ่มไอวีแอลอยู่ในตำแหน่งที่มีความได้เปรียบด้านต้นทุนจากอีเทนและโพรเพน โดยตั้งเป้าเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 2560 ซึ่งจะทำให้เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่เข้าไปใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติที่ได้จากชั้นหิน (shale gas) ในสหรัฐอเมริกาและนำหน้าโรงงานแครกเกอร์อื่นๆที่กำลังสร้างอยู่ การบูรณาการในสายโอเลฟินส์ จะทำให้ไอวีแอลมีความได้เปรียบด้านต้นทุนในระยะยาวในการดำเนินธุรกิจทุกแห่งทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกาเหนือ
นายบ๊อบบี้ จินดัล ผู้ว่าการรัฐหลุยส์เซียนา กล่าวว่า เนื่องจากระบบสาธารณูปโภคระดับโลกและความโดดเด่นด้านแรงงาน ทำให้รัฐหลุยส์เซียนาเป็นผู้นำในการเริ่มต้นกระแสฟื้นฟูอุตสาหกรรมในสหรัฐ เห็นได้จากตัวเลขโครงการปิโตรเคมี โครงการแปรรูปการผลิตและโครงการด้านพลังงานใหม่ๆที่อยู่ระหว่างดำเนินการในรัฐหลุยส์เซียนา นอกจากนี้ยังเห็นการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมองเห็นศักยภาพของรัฐที่มีการผสมผสานระหว่างแรงงาน ระบบขนส่งและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความได้เปรียบของรัฐหลุยส์เซียนา พัฒนาให้รัฐเป็นที่สนใจและมีความได้เปรียบ อินโดรามา เวนเจอร์สและนักลงทุนรายอื่นมีส่วนช่วยผลักดันให้รัฐหลุยส์เซียนา สร้างสถิติระดับตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งส่งผลดีต่อครอบครัวและความเป็นอยู่ของประชาชนในหลุยส์เซียนา