(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์หลังปรับลงหลายวัน แม้ภาพรวมยังไร้ปัจจัยหนุน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยยังไม่มีปัจจัยอะไรเด่น ดังนั้นระยะสั้นจึงยังให้น้ำหนักการลงทุนไปที่หุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ ที่มีประเด็นเกี่ยวกับโครงการของภาครัฐฯที่กำลังจะออกมา, หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีประเด็นมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ส่วนหุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ให้เลือกลงทุนเป็นรายตัว เพื่อเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 แต่หุ้นตัวที่รับผลประทบจากกรณี SSI ก็คิดว่าไม่น่าจะรีบาวด์ ส่วนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นก็น่าสนใจจากที่มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังค่าการกลั่นกลับมาฟื้นตัวขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 1,365 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(24 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,201.32 จุด ลดลง 78.57 จุด(-0.48%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,734.48 จุด ลดลง 18.26 จุด(-0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,932.24 จุด ลดลง 6.52 จุด(-0.34%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 46.47 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 11.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.39 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 9.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 16.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 25.59 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 11.84 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(24 ก.ย.58)1,372.35 จุด ลดลง 2.82 จุด (-0.20%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,295.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(24 ก.ย.58) ปิดที่ 44.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 1%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(24 ก.ย.58)ที่ 8.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 36.26/28 แข็งค่า แต่แนวโน้มยังอ่อนค่า หลังชัดเจนเฟดขึ้นดบ.ในปีนี้
• "สมคิด" เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สั่งลงเสา 5 โครงการใหญ่ รัฐฯ ร่วมกับเอกชน ชง ครม.ก่อนลุยภายในปี 58 งบประมาณ 2 แสนล้าน ประกอบด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย กับ 2 โครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยนนทบุรี และโคราช
• พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจประเมินการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายโดยไร้การควบคุม (ไอยูยู) ที่ประเทศไทยในช่วงเดือน ต.ค. ตามกำหนดระยะเวลาเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไทยมีความพร้อมสำหรับผลการประเมิน เนื่องจากได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกอย่างตามที่สหภาพยุโรป (อียู) ต้องการแล้ว
• "สนพ." คาดราคาน้ำมันดิบดูไบจะผันผวนในระดับต่ำเฉลี่ย 40-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอีก 16-18 เดือนทำให้ แนวโน้มราคาน้ำมันและค่าไฟยังมีทิศทางขาลงได้อีก แต่สิ่งที่วิตกกลับพบว่าดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพ การใช้พลังงานของไทยเริ่มส่งสัญญาณฟ้องว่าใช้แบบไร้ประสิทธิภาพแล้ว เตือนอย่าเพลินกับของถูก ขณะที่ 8 เดือนแรกปีนี้การใช้พลังงานโต 2.4% นำเข้าพุ่ง 8.6%
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาพรวมสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า สินเชื่อเติบโตดีขึ้นในรอบ 4 เดือน โดยเงินให้สินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้น 2.03 หมื่นล้านบาท หรือ 0.2% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 3.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นำโดยสินเชื่อธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ยังคงเป็นตัวนำในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หากเทียบตั้งแต่ต้นปี 2558 ในช่วง 8 เดือนมานี้ อัตราการเติบโตของ สินเชื่อยังอ่อนแออยู่ที่ 1.12%
• นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำงานของทูตพาณิชย์ทั่วโลกเพื่อให้มุ่งเน้นเจาะเข้าตลาดรายเมือง ตลาดอาเซียน และค้าชายแดนมากขึ้น พร้อมกับปรับการทำงานของพาณิชย์จังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพจังหวัดให้มากขึ้นเพื่อผลักดันการส่งออกปี 2559 ให้กลับมาเป็นบวกจากที่ปีนี้จะติดลบ 3% โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการประชุมผลักดันแผนส่งออกปีหน้า ส่วนแผน กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า โดยจะเน้นสร้างตลาดกลางให้ธุรกิจเอสเอ็มอียั่งยืน และส่งเสริมเอสเอ็มอีไปตลาดโลก ผ่านงบประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท คาดหวังว่าจะสร้างรายได้กว่า 50,000 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

• SCC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 580 บาท การที่ SCB ขายหุ้น SCC ทั้งหมด 9.09 ล้านหุ้นในราคาทุนคือหุ้นละ 491.76 บาทให้สนง.ทรัพย์สินฯ ทำให้ความวิตกของนักลงทุนจบลงเพราะการร่วงของราคา SCC ไม่ใช่เหตุผลทางปัจจัยพื้นฐาน และการขายไม่ได้ขายบนกระดาน แต่เป็นการทำ big lot ที่สูงกว่าราคาตลาด และทั้ง SCC และ SCB ต่างมีสนง.ทรัพย์สินฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งคู่ (สนง.ทรัพย์สินฯจะถือ SCC เพิ่มจาก 30% เป็น 30.76%) ขณะเดียวกัน SCB ก็ได้รับเงิน 4.47 บาทไปใช้ในการตั้งสำรองหนี้ของ SSI จากนี้ไปราคาหุ้น SCC ควรสะท้อนปัจจัยพื้นฐานได้ดีขึ้น กำไร 3Q15 จะลดลงชั่วคราวจากธุรกิจปูนซิเมนต์ที่อยู่ในช่วง Low season (แต่ดีขึ้นในปีหน้าเมื่อมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น) ธุรกิจปิโตรมี Spread แคบลงและมี stock loss ตามราคาน้ำมันที่ลดลง
• CK(โกลเบล็ก)เป้า 31.54 บาท รายงานกำไรสุทธิ 1H15 เติบโตสูง +208%YoY เป็น 2 พันลบ. จากการขายเงินลงทุนไซยะบุรี พาวเวอร์ (กำไรพิเศษ 1.6 พันลบ.) พร้อมคาดกำไรปี 15 ที่ 2.7 พันลบ. (+18%YoY) โดย 2H15 คาดกำไรปกติจะทรงตัวจากโครงการขนาดใหญ่อาทิ โครงการเขื่อนไชยะบุรี โครงการทางด่วนศรีรัช แต่กำไรสุทธิจะลดลงเพราะไม่มีกำไรพิเศษ นอกจากนี้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐภายในปี 58 งบประมาณ 2 แสนล้านบาท ผ่านรถไฟฟ้า 3 สาย ชมพู สีเหลือง
• LPN (เคเคเทรด)เป้า 20.50 บาท คาดได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯของภาครัฐที่จะออกมาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า, คาดกำไร 3Q58 เติบโตโดดเด่นสุดในปีนี้
• SAMTEL(เคเคเทรด)เป้า 23 บาท คาดแนวโน้มกำไรฟื้นตัวอย่างมีนัยใน 2H58 จากงานในมือและการประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีงบประมาณ (สิ้นสุดเดือน ก.ย.) คาดภาครัฐจะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ