เอพีเอ็มลาว พุ่งเป้าส่งบริษัทเข้า LSX ให้ได้ 15 รายภายในปี 63 ระดมทุนเฉลี่ย 500-1 พันลบ./ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2015 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอพีเอ็มลาว กล่าวว่า เอพีเอ็มลาว ตั้งเป้าหมายจะทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว(LSX)ให้ได้ 15 บริษัทภายในปี 63 มูลค่าระดมทุนเฉลี่ยรายละ 500-1,000 ล้านบาท หลังจากได้นำบริษัท ปิโตเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน (PTL)เข้าไปตั้งแต่ปลายปี 57

ในปีนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท สุวันนี โฮมเซ็นเตอร์ มหาชน ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการทางด้านวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งบ้าน และอาคารแบบครบวงจรจัดซึ่งจำหน่ายภายใต้ศูนย์การแสดงสินค้าขนาดใหญ่และทันสมัย(Showroom) ให้เป็น FA เพื่อเข้าตลาดหุ้นลาว และคาดว่าก่อนสิ้นปีนี้จะได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท สิดทิ โลจิสติกส์ ให้เป็น FA อีกราย

จากนั้นในปี 59 ยังมีภาคเอกชนลาวที่สนใจจะให้บริษัทเป็น FA อีกในหลายธุรกิจ ได้แก่ บริษัท ร่วมพัฒนากสิกรรม ขาออก-ขาเข้า, บริษัท สหก่อสร้าง ครบวงจร จำกัด ผู้เดียว, บริษัท กาแฟสีหนุก จำกัด, บริษัท จิโร คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เดียว รวมถึงธุรกิจฟาร์มไข่ไก่ที่แขวงปากเซ เป็นต้น

นายสมภพ กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นลาวในอนาคตน่าจะมีการคึกคักมากขึ้นจากที่บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่งที่มีอยู่ในขณะนี้จะมีการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนอีกไม่ต่ำกว่า 25 บริษัท ขณะที่ทางการลาวก็ได้ปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยล่าสุดได้เปิดให้นิติบุคคลสามารถเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องวางเงินสดค้ำประกัน รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ และยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ไปแล้ว

ขณะที่ทางเอพีเอ็มลาวได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ปรับเกณฑ์ดังกล่าวให้ใช้กับนักลงทุนรายย่อยที่มีมูลค่าการลงทุนรายละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทด้วย เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นลาวที่ปัจจุบันยังมีนักลงทุนรายย่อยในประเทศเพียง 2.5 หมื่นรายเท่านั้น ทำให้ตลาดไม่ acive เท่าที่ควร พร้อมกันนั้นตลาดหลักทรัพย์ลาวก็จะร่วมมือกับโบรกเกอร์ให้ความรู้กับประชาชนลาวเกี่ยวกับการออมเพื่อการลงทุน ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของลาวน่าจะปรับลดลงเพื่อให้ผลตอบแทนในตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย

ส่วนงานในประเทศนั้น นายสมภพ กล่าวว่า ก่อนสิ้นปีนี้บริษัทจะทำหน้าที่ FA เพื่อผลักดันบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) เพิ่มอีก 3 ราย ไม่ได้มีการเลื่อนกำหนดออกไปแม้ว่าสภาวะตลาดผันผวน ได้แก่ บมจ.เจตาแบค ในเดือน ต.ค., บมจ.บางกอก ชีทเม็ททัล ในเดือน พ.ย.และ อีกบริษัทในเดือน ธ.ค.นี้

จากนั้นในปี 59 ยังมีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนอีก 7-8 บริษัท ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนั้น 2 รายจะเข้าตลาด SET ส่วนที่เหลือเข้าตลาด mai นอกจากนั้นยังมีบริษัทผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ ที่มียอดขายสูงถึง 4 พันล้านบาท สนใจจะเข้าระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปครั่งแรก(IPO)เพื่อนำเงินไปใช้ผลิตยางแท่งป้อนให้กับผู้ผลิตยางล้อรถยนต์ในประเทศด้วย

นายสมภพ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีดีลที่ปรึกษาการร่วมทุนในมือ โดยมีกองทุนต่างประเทศสนใจเข้าถือหุ้นในธุรกิจของไทย ได้แก่ บมจ.ภูเก็ตเป๋าฮื้อ และ บริษัทเคมีภัณฑ์ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู มูลค่าการลงทุนราว 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งมีธุรกิจสระว่ายน้ำใน จ.ภูเก็ตที่ต้องการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ