ในปีนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท สุวันนี โฮมเซ็นเตอร์ มหาชน ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการทางด้านวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งบ้าน และอาคารแบบครบวงจรจัดซึ่งจำหน่ายภายใต้ศูนย์การแสดงสินค้าขนาดใหญ่และทันสมัย(Showroom) ให้เป็น FA เพื่อเข้าตลาดหุ้นลาว และคาดว่าก่อนสิ้นปีนี้จะได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท สิดทิ โลจิสติกส์ ให้เป็น FA อีกราย
จากนั้นในปี 59 ยังมีภาคเอกชนลาวที่สนใจจะให้บริษัทเป็น FA อีกในหลายธุรกิจ ได้แก่ บริษัท ร่วมพัฒนากสิกรรม ขาออก-ขาเข้า, บริษัท สหก่อสร้าง ครบวงจร จำกัด ผู้เดียว, บริษัท กาแฟสีหนุก จำกัด, บริษัท จิโร คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เดียว รวมถึงธุรกิจฟาร์มไข่ไก่ที่แขวงปากเซ เป็นต้น
นายสมภพ กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นลาวในอนาคตน่าจะมีการคึกคักมากขึ้นจากที่บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 3 แห่งที่มีอยู่ในขณะนี้จะมีการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนอีกไม่ต่ำกว่า 25 บริษัท ขณะที่ทางการลาวก็ได้ปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยล่าสุดได้เปิดให้นิติบุคคลสามารถเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์โดยไม่ต้องวางเงินสดค้ำประกัน รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ และยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ไปแล้ว
ขณะที่ทางเอพีเอ็มลาวได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้ปรับเกณฑ์ดังกล่าวให้ใช้กับนักลงทุนรายย่อยที่มีมูลค่าการลงทุนรายละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทด้วย เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นลาวที่ปัจจุบันยังมีนักลงทุนรายย่อยในประเทศเพียง 2.5 หมื่นรายเท่านั้น ทำให้ตลาดไม่ acive เท่าที่ควร พร้อมกันนั้นตลาดหลักทรัพย์ลาวก็จะร่วมมือกับโบรกเกอร์ให้ความรู้กับประชาชนลาวเกี่ยวกับการออมเพื่อการลงทุน ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของลาวน่าจะปรับลดลงเพื่อให้ผลตอบแทนในตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย
ส่วนงานในประเทศนั้น นายสมภพ กล่าวว่า ก่อนสิ้นปีนี้บริษัทจะทำหน้าที่ FA เพื่อผลักดันบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) เพิ่มอีก 3 ราย ไม่ได้มีการเลื่อนกำหนดออกไปแม้ว่าสภาวะตลาดผันผวน ได้แก่ บมจ.เจตาแบค ในเดือน ต.ค., บมจ.บางกอก ชีทเม็ททัล ในเดือน พ.ย.และ อีกบริษัทในเดือน ธ.ค.นี้
จากนั้นในปี 59 ยังมีบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนอีก 7-8 บริษัท ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนั้น 2 รายจะเข้าตลาด SET ส่วนที่เหลือเข้าตลาด mai นอกจากนั้นยังมีบริษัทผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ ที่มียอดขายสูงถึง 4 พันล้านบาท สนใจจะเข้าระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปครั่งแรก(IPO)เพื่อนำเงินไปใช้ผลิตยางแท่งป้อนให้กับผู้ผลิตยางล้อรถยนต์ในประเทศด้วย
นายสมภพ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีดีลที่ปรึกษาการร่วมทุนในมือ โดยมีกองทุนต่างประเทศสนใจเข้าถือหุ้นในธุรกิจของไทย ได้แก่ บมจ.ภูเก็ตเป๋าฮื้อ และ บริษัทเคมีภัณฑ์ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู มูลค่าการลงทุนราว 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งมีธุรกิจสระว่ายน้ำใน จ.ภูเก็ตที่ต้องการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนด้วย