ขณะนี้บริษัทได้เริ่มเข้าศึกษากลุ่มธุรกิจ VDO Content Distribution ซึ่งรวมถึง Digital Content ว่าการเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างไร ผลประกอบการของผู้ได้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอล เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล
"ถ้าเราจะลงทุน เราจะทำ 3 อย่าง คือ อย่างแรก ทำวิจัย ว่าสิ่งที่เราลงทุนเป็นอย่างไร เก็บสถิติ อย่างที่สองแนวทางการศึกษาว่ามีความเป็นไปได้ไหม ดูทั้งมีข้อดีข้อเสีย แล้วสามก็จะเข้ากระบวนการตัดสินใจ"นายสมประสงค์ กล่าว
นายสมประสงค์ กล่าวว่า บริษัทต้องการสร้างความมั่งคั่ง(Wealth) ด้วยธุรกิจของตัวเอง โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุนจากธุรกิจอื่น ที่ไม่ใช่ธุรกิจของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และ บมจ.ไทยคม (THCOM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยวางเป้าหมายภายใน 5 ปี สัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 25% จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 5%
ปัจจุบัน INTUCH มีเงินสดในมืออยุ่ 2 พันล้านบาท ซึ่งหากจะลงทุนเพิ่มเติมก็มีความพร้อมเพราะบริษัทมีเครดิตมากพอจะใช้เงินกู้สถาบันการเงินหรือเลือกออกหุ้นกู้ อย่างไรก็ตาม หากมีการลงทุนใหม่ๆ บริษัทก็ยังคงนโยบยการจ่ายเงินปันผล 100% ของกำไรสุทธิ
สำหรับกรณีที่บมจ.ทีโอที เตรียมจะยื่นฟ้องเพื่อไม่ให้มีการนำคลื่นย่าน 900 MHz ออกประมูลนั้น นายสมประสงค์ กล่าวว่า ADVANC ทำตามกฎเกณฑ์การประมูลที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนความร่วมมือของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทีโอทีนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของทีโอทีหลังจากที่ ADVANC ได้ยื่นความจำนงเป็นพันธมิตรธุรกิจไปแล้ว
นายประสงค์ กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อย โดยทุกๆปีจะมีการโรดโชว์ ในต่างประเทศ เพื่ออัพเดทข้อมูลบริษัท รวมทั้งตอบข้อซักถามของนักลงทุน โดยเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา ยุโรป ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รวมทั้งในประเทศ โดยล่าสุดเพิ่งเดินทางไปไต้หวัน และเร็วๆนี้จะเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐฯ