นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย BAY กล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมากรุงศรีได้ประกาศแผนธุรกิจ 3 ปี(ปี 58-60) โดยใช้เครือข่ายสาขาของธนาคารเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนการรุกธุรกิจ สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดธุรกรรมผ่านสาขาของธนาคารยังคงเติบโตได้อย่างน่าพอใจ อาทิ เงินฝาก ผลิตภัณฑ์ประกัน กองทุนรวม แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวยนัก
“การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ธนาคารดำเนินธุรกิจโดยใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางโดย 1.) มุ่งสร้างความสะดวกในการให้บริการลูกค้าผ่านการขยายสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม 2.) พัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าทุกเซ็กเม้นต์ 3.) ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายโดยเน้นความต้องการของลูกค้าผ่านบริการที่ปรึกษาทางการเงิน 4.) พัฒนาศักยภาพของพนักงานสาขาให้มีความรอบรู้ในผลิตภัณฑ์ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละเซ็กเม้นต์ได้เป็นอย่างดี"นายพงษ์อนันต์กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้นำระบบการปฏิบัติงานและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อลดระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อ เช่น ระบบ “OneScan" สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน สาขาสามารถติดตามสถานะของใบสมัครได้ทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการพิจารณา ทำให้ลูกค้าทราบผลการอนุมัติเบื้องต้นเร็วขึ้น
ผลงานของสาขาในช่วง 7 เดือนแรกเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรม แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เช่น ยอดเงินฝากเติบโต 5% ยอดสินเชื่อใหม่เพื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 5% ยอดขายกองทุนรวมเติบโต 28% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ที่ขายผ่านสาขาของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 22% เมื่อเทียบกับตลาดที่เติบโตติดลบ 19%
ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 663 สาขา เครื่องเอทีเอ็ม 5,474 เครื่อง สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 91 แห่ง ทั่วประเทศ และยังมีสาขาที่มีพนักงานซึ่งมีทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่น (Japanese Desk) ประกอบไปด้วย สาขาสยามพารากอน สาขาทองหล่อ (อาคารวสุ) สาขาเจ-อเวนิว ทองหล่อ สาขาเอ็มควอเทียร์ และในเดือนตุลาคมนี้ ธนาคารจะเปิดให้บริการ Japanese Desk เพิ่มที่สาขาสี่แยกอโศก