CHO เชื่อมีโอกาสประมูลรถเมล์ไฟฟ้าหากขสมก.ปรับเปลี่ยนจากรถเมล์ NGV

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2015 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิติธร ดีอำไพ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.ช. ทวี ดอลลาเซียน (CHO) กล่าวว่า บริษัทฯยืนยันไม่ได้มีการยื่นเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้เร่งรัดการเซ็นสัญญาโครงการจัดซื้อรถเมล์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) จำนวน 489 คัน แม้ว่าจะล่าช้าออกมามาก โดยคาดว่าในช่วงเดือนต.ค.58 จะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จเพื่อให้ทันต่อการส่งมอบรถตามกำหนดในช่วงต้นปี 59 โดยบริษัทฯจะมีการส่งมอบรถในปีนี้จำนวนครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นปีหน้า ขณะที่จะมีการทยอยรับรู้รายได้ตามลำดับของการส่งมอบรถ

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รมช.คมนาคม ขอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ศึกษาทำโครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงตามจำนวนรถโดยสารที่ยังเหลืออีก 2,694 คัน จากเดิมที่เป็นโครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทั้งหมด 3,183 คันนั้น นายนิติธร กล่าวว่า หากศึกษาแล้วสามารถทำได้จริง หรือคุ้มค่ากว่าก็จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ

ทั้งนี้ หากมีการเปิดประมูลดังกล่าวเกิดขึ้นก็จะเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเข้าไปประมูลงาน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีการจัดทำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า 6 ล้อ และ 4 ล้อ ให้กับ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การจัดทำโครงการรถเมล์ไฟฟ้า น่าจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

"เราต้องแยกระหว่างรถที่เราได้มาแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจำนวน 489 คัน กับที่เหลืออีก 2,000 กว่าคัน ซึ่งขสมก.มีแนวคิดที่จะนำมาจัดทำโครงการรถเมล์ไฟฟ้า ในส่วนที่เหลือนี้ ซึ่งก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาว่าเมื่อทำเป็นไฟฟ้าแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ มองว่าน่าจะใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามจะเป็นผลดีต่อบริษัทเราอย่างแน่นอน เพราะเราก็มีโปรดักซ์แบบนี้อยู่ และถ้าหากขสมก.ต้องการข้อมูล เราก็มีความยินดีที่จะให้ข้อมูลและสนับสนุน" นายนิติธร กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี 58 บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ราว 10% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,526.24 ล้านบาท (ไม่ได้นับรวมรายได้พิเศษจากการขายหลอดไฟ LED จำนวน 500 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อตัดรายได้พิเศษออกจะทำให้รายได้ในปี 57 มีประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยการเติบโตในปี 58 จะมาจากสัดส่วนรายได้ในประเทศคิดเป็น 60% และต่างประเทศ 40% ขณะที่ปีนี้ยังไม่รวมรายได้จากการประมูลรถเมล์ NGV

ขณะที่งานในมือ (Backlog) ปัจจุบันมีอยู่ 600 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรู้รับในไตรมาส 4/58 ได้จำนวน 300 ล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป ส่วนในปี 59 มองว่าผลการดำเนินงานน่าจะทรงตัว เมื่อเทียบกับปีนี้ จากที่การประมูลใหญ่ๆยังไม่น่าจะมีออกมา เว้นแต่ถ้าหากการประมูลรถเมล์ไฟฟ้าเกิดขึ้นเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ