(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค กังวลเฟดขึ้นดบ.-ศก.จีน-บาทอ่อนค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 29, 2015 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงกว่า 1% เนื่องจากมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังจากที่ประธานเฟดสาขานิวยอร์คออกมาระบุว่า อัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว

อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของจีนก็ยังไม่ดี โดยกำไรบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีนได้ติดลบ 8.8% นอกจากนี้ ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนส.ค.ก็ออกมาติดลบ 6.7% ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย รวมทั้งเงินบาทก็อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติน่าจะขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับ 1,335-1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(28 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,001.89 จุด ร่วงลง 312.78 จุด(-1.92%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,543.97 จุด ลดลง 142.53 จุด(-3.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,881.77 จุด ลดลง 49.57 จุด(-2.57%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 285.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 45.54 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 607.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 29.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 7.54 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นตู้เจวียน และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 ก.ย.58)1,352.13 จุด ลดลง 24.70 จุด(-1.79%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,081.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 ก.ย.58) ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 ก.ย.58)ที่ 9.15 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.44/46 อ่อนค่ารอบ 6 ปีครึ่ง กังวลศก.จีน มองกรอบ 36.40-36.50
  • ส่งออกไทยเดือน ส.ค.ลดลง 6.69% ขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ในรอบปีนี้ เหตุเศรษฐกิจโลก คู่ค้า ยังคงชะลอตัว น้ำมันลด ฉุดสินค้าเกี่ยวเนื่องลดตาม สินค้าเกษตรยังคงตกต่ำ แถมคู่แข่งลดค่าเงิน ทำให้สินค้าไทยแข่งได้ยากขึ้น ย้ำแม้ไทยส่งออกลด แต่ก็ไม่ได้ลดลงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น แถมส่วนแบ่งตลาดไม่ลด เผยลุ้นยานยนต์เป็นพระเอกช่วยฉุดส่งออกทั้งปีไม่ให้ติดลบเกิน 3%
  • ขุนคลังยอมรับเฟดขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำมันร่วง เศรษฐกิจโลกชะลอตัวล้วนกดดันอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 58 มั่นใจการบริหารงบการเงินอย่างเหมาะสม ประกอบกับนโยบายภาษีสามารถสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สนับสนุน GDP ปี 59 โต กว่าปีนี้ที่ ธปท.ประเมินที่ 2.7% พร้อมยันไม่มีแผนขายหุ้น PTT-THAI-TMB ตามกระแสข่าว
  • บอร์ด กนง.ประเมินเงินบาทมีโอกาสผันผวนต่อเนื่องและมีนัยต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยในอนาคต ภายใต้ความไม่แน่นอนตลาดการเงินโลกและเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า แนะรัฐและเอกชนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระบุนโยบายการคลัง-เงินยังพื้นที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจด้านต่างประเทศและเงินทุนเคลื่อนย้ายได้
  • นายสุธีร์ โล้วโสภณกุล รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายบริหารเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ธนาคารประเมินค่าเงินบาทสิ้นปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยหลักคือตัวเลขเศรษฐกิจของไทยทั้งอัตราการขยายตัว (จีดีพี) การส่งออกชะลอตัวลงจากช่วงต้นปี และค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงอีก หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใน สิ้นปีนี้ โดยส่วนตัวประเมินว่าจะขึ้นอีก 0.25%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JWD บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์(SET)ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยมีราคาเสนอขาย IPO ที่ 11 บาท/หุ้น

JWD ดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศ (In-land Logistics) อย่างครบวงจร ครอบคลุมการให้บริการรับฝาก บริหารสินค้าบนพื้นที่ทั่วไปและเขตปลอดอากรขนส่งสินค้าในประเทศและข้ามแดน ขนย้ายในประเทศและต่างประเทศ และจัดการเอกสารและข้อมูลธุรกิจด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการที่รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

  • INTUCH(เคเคเทรด)เป้า 98 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากจนทำให้ Dividend yield สูงจูงใจถึง 7.8% (คาดการณ์สำหรับปีหน้า)
  • KCE (เคเคเทรด)เป้า 53.50 บาท ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าและฤดูกาลขาย (High season) ใน 3Q58 มากสุด
  • UV(โกลเบล็ก)ผลดำเนินงานปี 58 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากปี 57 ได้รับผลดีจากการควบรวมกิจการกับ GOLD และ KLAND โครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจอสังหาฯเพื่อขาย 79% (ถือหุ้น GRANDU GOLD KLAND) รายได้ค่าเช่าอาคารสำนักงาน 11% (อาคารปาร์คเวนเจอร์และสาธรสแควร์) รายได้จากธุรกิจสังกะสี 9% และรายได้อื่น 1% และเป้ารายได้อสังหาฯ 10,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 63% มี backlog รองรับแล้ว 80% นอกจากนี้ มีแผนนำโครงการเพื่อเช่า 2 อาคารสำนักงานจัดตั้งกอง REIT มูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท ตึกปาร์คเวนเจอร์ มีราคาประเมิน 2,850 ล้านบาท, ตึกสาธรสแควร์ มีราคาประเมิน 6,500 ล้านบาท เงินที่ได้จะนำมาชำระคืนเงินกู้ ผู้บริหารคาดอนุมัติช้าสุดภายใน 8 ก.พ. 59
  • EPG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 12 บาท แนวโน้มกำไร 2Q16 (ก.ค.-ก.ย. 2015)จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องแม้สินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะเข้าสู่ Low season แต่ชดเชยได้จากชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น บันไดข้างและหลังคารถกระบะ ที่เริ่มมีออเดอร์เข้ามาหลังพ้นการเปลี่ยนรุ่นรถกระบะไปแล้ว และยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนและต้นทุนเม็ดพลาสติกที่อยู่ในระดับต่ำ โดยคาดกำไร 2Q16 +10% Q-Q, +124% Y-Y และปรับกำไรปี 2016-17 (สิ้นสุด มี.ค.) ขึ้นปีละ 10-13% เป็นเติบโต 95% Y-Y ในปี 2016 และโต 11% Y-Y ปี 2017 ข่าว Volkswagen ไม่กระทบบริษัทเพราะตลาดส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ