ทั้งนี้ จะมีบล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ORI และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นอีก 3 ราย ได้แก่ บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.คันทรี่ กรุ๊ป และบล.เคที ซีมิโก้
บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้(ORI) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทฯมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ทางบริษัทได้ดำเนินการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุน โดยมีช่วงราคาที่เสนอขาย 9.00 บาท/หุ้น พบว่านักลงทุนสถาบันให้ความสนใจโดยมียอด Bookbuild แสดงความต้องการสูงถึง 11เท่า ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน
"ราคาหุ้น IPO มีส่วนลดประมาณ 28% เมื่อเทียบกับราคายุติธรรมจากบทวิเคราะห์หุ้นบริษัทฯ...มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ ORI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่ง"นายแมนพงศ์ กล่าว
นายแมนพงศ์ กล่าวว่า ออริจิ้นฯ ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเป็นลักษณะคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise และ High Rise ที่สามารถผสมผสานระหว่างการรับรู้รายได้ได้เร็ว และมีผลตอบแทนจากอัตรากำไรที่สูง
ปัจจุบันบริษัทฯมีโครงการทั้งหมด 27 โครงการ มูลค่ารวม 17,052 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ มูลค่า 3,117 ล้านบาท , โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ มูลค่า 3,610 ล้านบาท, โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ 6,955 ล้านบาท และ โครงการที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต 5 โครงการ มูลค่า 3,370 ล้านบาท และปัจจุบันมียอดขายรอโอน(Backlog) ในมือกว่า 5,376 ล้านบาท
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของออริจิ้นฯ กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง 2558 บริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่อีกประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด และอาจจะเห็นการเปิดโครงการผสมผสานในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ได้ในอนาคต
ส่วนแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีการเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากคอนโดฯ ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากที่สุด สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ , โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ และโครงการที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต 5 โครงการ มูลค่า 3,370 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 229.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,240% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,080.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 762% เนื่องจากบริษัทฯมีความสามารถในการทำยอดพรีเซล ได้สูงถึง 203% เป็นผลจากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม ตั้งแต่ต้นปี 2558 จำนวน 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 3,175 ล้านบาทและมียอด Backlog ในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/58 ประมาณ 5,376 ล้านบาท
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างแบรนของ “ORIGIN" ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นทั้งในกลุ่มของผู้ซื้อคอนโด และนักลงทุน รวมถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจให้กับบริษัท และผู้ซื้อคอนโดฯในระยะยาว"นายพีระพงศ์ กล่าว