BEAUTY บวก 1.35% หลังทีมผู้บริหารให้ข้อมูลโบรกฯ มั่นใจยังโตได้ไม่หยุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 30, 2015 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น BEAUTY ราคาขยับขึ้น 1.35% มาอยู่ที่ 4.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 12.59 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.24 น. โดยเปิดตลาดที่ 4.52 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.56 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.50 บาท

บทวิเคราะห์ของ บล.ธนชาต ให้ราคาเป้าหมายหุ้น บมจ.บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้(BEAUTY)ที่ 5.00 บาท/หุ้น หลังได้รับทราบข้อมูลจาก CEO และทีมผู้บริหารสนับสนุนมุมมองของเราว่า BEAUTY จะมีกำไรที่เติบโตต่อเนื่องไปอีกหลายปี ขณะที่การใช้กลยุทธ์แบบไดนามิกได้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งในประเทศ ตลาดต่างประเทศก็เป็นโอกาสในการเติบโตใหม่ของ BEAUTY

น.พ. สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมทีมผู้บริหาร ยืนยันถึงทิศทางบริษัทที่ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจเครื่องสำอางและความงามทั้งในไทยและในภูมิภาคเอเชีย แม้การแข่งขันจะสูง แต่ด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบไดนามิก ทีมการขายและทีมสนับสนุนการขายที่แข็งแกร่ง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการทำงานที่ดีขึ้น บริษัทยังสามารถสนองและเข้าถึงความต้องการที่เติบโตแข็งแกร่งของลูกค้าได้ ดังนั้น CEO จึงมั่นใจว่าจะยังมีอัตราการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยเราคาดว่ายอดขายจะเติบโต 27-30% ต่อปีในช่วงสามปีข้างหน้า

BEAUTY วางตำแหน่งตัวเองเป็นร้านค้าปลีกเครื่องสำอางชั้นนำในกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง กลยุทธ์ทางธุรกิจแบบไดนามิก โดยมีความหลากหลายของช่องทางจำหน่าย การจัดหา ผลิตภัณฑ์ และตลาด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน การจ้างผลิตจากในไทยและต่างประเทศไม่เพียงแต่ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการออกผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาสินค้าค้างสต็อกอีกด้วย

การมีช่องทางจำหน่ายทั้งร้านค้า ออนไลน์ โมเดิร์นเทรด และการส่งออกช่วยให้บริษัทสามารถรองรับตลาดที่เติบโตและมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ปัจจุบัน BEAUTY โตมาถึงจุดที่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด และมีอำนาจต่อรองสูงขึ้น ทำให้มีความสามารถรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิได้ดี แม้จะมีสัดส่วนยอดขายจากช่องทางที่มีอัตรากำไรต่ำเพิ่มขึ้น

ตลาดในประเทศยังคงเป็นเป้าหมายหลักผลักดันกำไร โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งจากลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน ผู้บริหารเชื่อว่าตลาดไทยยังคงอยู่ในช่วงต้นของวงจรการเติบโตและยังห่างไกลจากจุดอิ่มตัว เพราะเกาหลีและญี่ปุ่นยังคงมีการใช้จ่ายซื้อเครื่องสำอางสูงกว่าไทย 10 เท่า และการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่หันมาซื้อสินค้าผ่านร้านค้าปลีกและออนไลน์แทนการซื้อผ่านช่องทางการขายตรง รวมทั้ง ช่วงอายุของกลุ่มลูกค้า BEAUTY กว้างขึ้น และมีผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากขึ้น และ มีนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทยมากขึ้น

ผู้บริหารเห็นโอกาสในการเติบโตที่ดีในกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม และในเอเชีย (จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย และประเทศในตะวันออกกลาง) โดย BEAUTY ตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 5% ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ 1% และตั้งเป้าที่จะมีร้านค้าเพิ่มเป็น 90 จาก 29 ในปัจจุบัน และเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคด้านกฎหมาย การขายส่งจึงเป็นรูปแบบการขายในตลาดต่างประเทศ ยกเว้น ใน CLMV ซึ่งใช่รูปแบบการขายแบบกึ่งแฟรนไชส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ