ทั้งนี้ ในปี 58 มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยสูงถึง 7 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 6 ล้านคน โดยในครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนไทยแล้วถึง 4 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเมืองเซี่ยงไฮ้และมณฑลโดยรอบ
ประกอบกับจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินมางไปยังจีนในปีนี้ถึง 613,100 คน โดยครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปยังจีนแล้ว 309,000 คน อีกทั้งเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองที่โดดเด่นไนการท่องเที่ยวและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศจีน ทำให้บริษัทมีการตัดสินใจเปิดเส้นทางดังกล่าว หลังจากศึกษามากว่า 2 เดือน โดยตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจีนที่จองเที่ยวบินดังกล่าวเฉลี่ยต่อวันในช่วง Golden Week อยู่ที่ 350 ที่นั่ง/วัน/ลำ จากขนาดบรรทุก 377 ที่นั่ง/วัน/ลำ
สำหรับสัดส่วนการขายเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ จะแตกต่างจากเที่ยวบินอื่นๆ โดยจะเน้นขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีน 90% และอีก 10% ขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ขณะที่เที่ยวบินอื่นจะขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย 60% และนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือเกาหลีไต้ 40% ทั้งนี้ คาดว่าเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทหลังจากเปิดทำการบินแล้วถึงสิ้นปีนี้ราว 500-550 ล้านบาท
"ประเทศจีนถือว่าเป็นตลาดที่มากไปด้วยจำนวนประชากรและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน" นายนัตดา กล่าว
นายนัดดา เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้คงจะพลาดเป้าหมายเล็กน้อยมาอยู่ที่ 6 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่กว่า 6 พันล้านบาท เนื่องจากอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากมีการปิดเส้นทางใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงต้นปี คือ กรุงเทพฯ-ฮอกไกโด (DMK-CTS) จากปัญหาองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO )ขึ้นธงแดงไทยเพื่อประกาศให้สาธารณะรับทราบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns: SSC) ตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล
"ปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ส่งผลกระทบในเรื่องอัตราค่าโดยสารและรายได้ของบริษัทที่พลาดเป้า"นายนัดดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารของบริษัทในปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 7 แสนคน และหากรวมกับปี 57 (มิ.ย.-ธ.ค. 57) ที่มีจำนวนผู้โดยสาร 3 แสนคน จะทำให้สิ้นปีนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะมียอดรวมผู้โดยสารเพิ่มเป็น 1 ล้านคน เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ในปีนี้ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ 80% โดยบริษัทมียอดจองในไตรมาส 4/58 อยู่ที่ 80-84%
ทั้งนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะรับมอบเครื่องบินใหม่ภายในเดือน พ.ย.นี้ เป็นเครื่องบินแอร์บัส A330-300 อีก 1 ลำ ทำให้สิ้นปีนี้จะมีจำนวนเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 5 ลำ จากปัจจุบันมี 4 ลำ และในปี 59 จะมีการเพิ่มเครื่องบินใหม่อีก 1 ลำ
ส่วนรายได้ในปี 59 ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 7-8 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารไช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านคน ส่วนการเพิ่มเที่ยวบินใหม่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่อาจจะยังอยู่ในโซนเอเชีย ซึ่งต้องมีระยะเวลาทำการบินมากว่า 4 ชั่วโมง โดยขณะนี้บริษัทสนใจเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มในจีนและอินเดียอีกด้วย
"การเปิดเส้นทางบินใหม่ในปีหน้าก็ยังขอดูๆก่อน เพราะจะเปิดต้องแน่ใจว่าเส้นทางนั้นมีศักยภาพจริงๆ ต้องไช้ระยะเวลาในทำ route analysis กันพอสมควร เราก็ไปเคาะประตูเยอะที่ๆ เราสนใจไป อย่างเช่น จีน ก็เพิ่มได้เซี่ยงไฮ้มา แต่ก็มีภูมิภาคอื่นๆ ที่เราก็สนใจ อินเดียก๊เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจ แต่เราเสียดายฮอกไกโดที่ต้องปิดไป เพราะเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพมาก ถ้าสถานการณ์ต่างๆเรียบร้อยกลับมาและเรามีโอกาสเปิดเส้นทางฮอกไกโดอีก เราก็สนใจทำแต่ตอนนี้ขอหยุดไปก่อน"นายนัดดา กล่าว
ปัจจุบัน เที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้แก่ กรุงเทพฯ-โตเกียว (DMK-NRT) 2 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพฯ-โอซาก้า (DMK-KIX) 1 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพฯ-โซล (DMK-ICN) 2 เที่ยวบินต่อวัน และในวันนี้เปิดเส้นทางใหม่กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ (DMK-PVG) 1 เที่ยวบินต่อวัน โดยเริ่มทำการบินตั้งแต่ 11 ตุลาคม 58 เป็นต้นไป และลูกค้าสามารถจองผ่าน www.airasia.com ได้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 58 เป็นต้นไป โดยมีโปรโมชั่นราคาพิเศษเริ่มต้ล 2,990 บาท/เที่ยว ตั้งแต่ 1-11 ตุลาคม 58 และเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่ 11 ตุลาคม 58 - 29 ตุลาคม 59