นักวิเคราะห์จาก บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า การปรับขึ้นของหุ้น บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี(SSI)ต้นภาคเช้าวันนี้เป็นการตอบรับข่าวบริษัทฯยื่นเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะมีผลให้ SSI ไม่ถูกฟ้องทางแพ่ง และไม่สามารถฟ้องล้มละลายได้ รวมทั้งเจ้าหนี้ก็ไม่สามารถยึดหลักทรัพย้ค้ำประกันได้ ซึ่ง SSI ได้ค้ำประกันหนี้ที่บริษัท เอสเอสไอ ยูเค จำกัด ที่มีมูลหนี้ 23,900 ล้านบาท
นอกจากนี้ SSI ยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ เดินเครื่องผลิตแผ่นเหล็กรีดแบนได้ อย่างไรก็ตาม หากงบรายปี 58 ออกมาปรากฎส่วนผู้ถือหุ้นติดลบก็จะถูกเข้าข่ายถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะให้เวลาเทรด 30 วันนับจากวันที่งบรายปีประกาศออกมา ก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดการซื้อขาย
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า กลุ่ม SSI มีมูลหนี้รวมสูงถึง 53,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา SSI ชำระดอกเบี้ยจ่ายปีละประมาณ 3 พันล้านบาท และเห็นว่าแม้จะเข้าแผนฟื้นฟูกิจการก็คงต้องใช้เวลาราว 5 ปี หรืออย่างเร็ว 3 ปี ขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กยังอยู่ในช่วงขาลงใน 2 ปีนี้หลังจากที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ทำให้ผู้ผลิตเหล็กในจีนส่งสินค้าออกมาดัมพ์ตลาดต่างประเทศรวมถึงไทย ฉะนั้น ต่อให้บริษัทฯปรับโครงสร้างหนี้แต่ก็ยังต้องเผชิญความยากลำบาก
ส่วนข่าวลือที่ออกมาว่า กล่าวว่า กลุ่มวิริยประไพกิจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ SSI จะขายหุ้นบมจ.บางสะพานบาร์มิล (BSBM)เพื่อชำระหนี้ SSI นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น BSBM มีมูลค่าตลาดเพียงกว่า 1 พันกว่าล้านบาท หากขายออกมาก็ยังไม่สามารถชำระหนี้คืนได้หมดอยู่ดี