อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังเป็นตัวกดดัน จากเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน และแม้ว่าจะมีการเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 แต่ภาพโดยรวมคงจะยังไม่ดี เนื่องจากกลุ่มแบงก์อาจมีตัวเลข NPL ที่เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มพลังานก็มีแรงกดดันจากราคาพลังงาน ดังนั้นการรีบาวด์ของดัชนีฯจึงเป็นไปอย่างจำกัด
พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(2 ต.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,472.37 จุด เพิ่มขึ้น 200.36 จุด(+1.23%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,707.78 จุด เพิ่มขึ้น 80.69 จุด(+1.74%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,951.36 จุด เพิ่มขึ้น 27.54 จุด(+1.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 424.88 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 32.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 37.96 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.92 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 195.87 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้(5 ต.ค.)เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 ต.ค.58) 1,346.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด(+0.09%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 120.84 จุด เมื่อวันที่ 2 ต.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 ต.ค.58) ปิดที่ 45.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 ต.ค.58)ที่ 7.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 36.43/45 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้จัดทำรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นการลงทุนพิเศษในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเสร็จแล้ว และส่งมาให้พิจารณาลงทุนพิเศษในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเสร็จแล้ว และส่งมาให้พิจารณาแล้ว จึงเหลือเฉพาะมาตรการจูงใจจากทางกระทรวงการคลังที่จะเสนอมาประกบกัน ก่อนจะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาแผนกระตุ้นการลงทุนระยะสั้นต่อไป
- แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 ได้มีมติเห็นชอบให้ยืดขยายกรอบระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพัน เงินกันไว้เหลื่อมปี 2555-2557 ที่ยังคงเหลือกรณีไม่มีหนี้ผูกพันจำนวน 64,365 ล้านบาท คิดเป็น 19.3% ของวงเงินกันไว้เหลื่อมปีประจำปีงบประมาณ 2555-2557 ทั้งหมด 333,164 ล้านบาท ออกไปเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค. 2559 จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าต้องก่อหนี้ผูกพันให้หมดภายในวันที่ 30 ก.ย. 2558
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานปริมาณธุรกรรมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศของระบบธนาคารพาณิชย์ล่าสุด ณ สิ้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากถึง 5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ 36.50 บาท/เหรียญสหรัฐ) หรือเพิ่มขึ้น 29.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกรรมการซื้อขายเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้น 2,377 ล้านเหรียญสหรัฐ/วัน (ราว 8.7 หมื่นล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 23.2%
- ธปท.ร่อนหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่งแก้ไขหลักเกณฑ์การซื้อเงินหยวนจาก ธปท.โดยมีสัญญาว่าจะขายคืนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินบาทฉบับใหม่ ขยายเวลาธุรกรรมซื้อเงินหยวนจาก ธปท.ไม่เกิน 12 เดือน ปรับลดดอกเบี้ยราคาขายเหลือ SHIBOR บวก 0.5% และลดเบี้ยปรับเป็น SHIBOR บวก 3.5% พร้อมทั้งแจ้งวันส่งมอบเงินหยวนล่วงหน้าเหลือ 2 วันการ
- กรมธุรกิจพลังงานเผยการนำเข้าน้ำมันดิบ 8 เดือนแรกของไทยปีนี้(ม.ค.-ส.ค.58 ) ปริมาณเพิ่มขึ้น 12.9% คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 4.22 แสนล้านบาท แต่อานิสงส์ราคาน้ำมันโลกดิ่งฉุดมูลค่านำเข้าลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 2.58 แสนล้านบาท ขณะที่การใช้ E 85 ยังลดลงต่อเนื่อง
- คมนาคม เตรียมชงแอคชั่นแพลนยกชั้นคลองแสนแสบเข้า ครม. ต.ค.นี้ เผยงบพุ่งสูงเฉียด 7 พันล้าน-ตั้งเป้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามภายปี 60 น้ำในคลองสะอาด
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2016 ที่ 195 บาท แนวโน้มกำไร 3Q15 น่าจะโดดเด่นสุดในกลุ่ม โดยคาดกำไรสุทธิ 9,296 ล้านบาท +15.7% Q-Q, -3% Y-Y จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมที่โตดี และคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าไตรมาสก่อน แม้ว่า NPL ยังขึ้นต่อแต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม ทำให้ตั้งสำรองฯสูงกว่าปกติแต่ไม่กระทบกำไรทั้งปีเพราะมีกำไรพิเศษมาชดเชย
- TU(ฟันันเซีย ไซรัส)"ซื้อลงทุนระยะยาว"เป้าปี 2016 ที่ 23 บาท กำไรสุทธิ 3Q15 น่าจะทำจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.78 พันล้านบาท +26% Q-Q, -7% Y-Y ส่วนกำไรปกติ +6% Q-Q และทรงตัว Y-Y กำไรที่ดีมาจากเงินบาทที่อ่อนค่าและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล โดยคาดกำไรปกติปี 2015 +9% Y-Y และปี 2016 +14% Y-Y แต่ระยะสั้นยังมีแรงกดดันจากดีล Bumble Bee ที่ไม่ชัดเจน (น่าจะเห็นความคืบหน้าก่อน 18 ธ.ค. นี้)การถูกตรวจสอบกรณีผูกขาดทางการค้าโดย DOJ และการถูกฟ้องร้องโดยผู้บริโภคอเมริกันกรณีใช้แรงงานทาส
- LPN (เคเคเทรด)เป้า 20.50 บาท เก็งกำไรบนความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯจากภาครัฐ คาดจะออกมาเร็ว ๆ นี้
- SAMTEL(เคเคเทรด)เป้า 23 บาท คาดกำไรฟื้นตัวอย่างมีนัยใน 2H58 จากงานในมือและการประมูลงานใหม่ จากการเร่งการลงทุนของภาครัฐ
- PTT(ธนชาต)ปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อ"จากเดิม"ถือ"แต่ลดเป้าเป็น 310 บาท มีปัจจัยหลักจากการลดสมมติฐานราคาน้ำมัน จากการคาดการณ์ PE ที่ 9 เท่า และ PBV ที่ 0.9 เท่า ซึ่งเป็นค่าต่ำสุดนับตั้งแต่ วิกฤตการณ์ทางการเงิน ในช่วงต้นปี 2009 ทำให้มองว่า ปตท. เป็นที่น่าสนใจ เพราะธุรกิจหลักพบจุดต่ำสุดแล้ว และมี upsie จากการเจริญเติบโตของแรงผลักดันใหม่