อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของผู้ซื้อจะเข้ามาช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริทัพย์ฯในช่วงที่เหลือของปี และส่งผลดีต่อโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนของบริษัทโดยเฉพาะโครงการแนวราบที่บริษัทมีมูลค่าโครการเหลือขายของโครงการแนวราบทั้งหมด 3 พันล้านบาท ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมโอนของบริษัทอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ซึ่งก็จะได้อานิสงส์จากมาตรการดังกล่าวไปส่วนหนึ่ง และโครงการที่อยู่ระหว่างการขายมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 7-8 โครการ ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมในกทม.และต่างจังหวัด สำหรับในกทม. จะมีโครงการคอนโดฯ 2 โครงการ แนวราบ 2-3 โครงการ ส่วนในต่างจังหวัดเป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการในจังหวัดนครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และชลบุรี (พัทยา)
ในวันนี้ บริษัทฯ ได้เปิดเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม"ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย" มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวมีจุดเด่นอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี โดยเป็นอาคารพักอาศัยสูง 33 ชั้น รวมดาดฟ้า 1 อาคาร จำนวนห้องพัก 422 ยูนิต แบ่งเป็นขนาด 32-68 ตารางเมตร แบบ Studio 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มเพียง 1 ล้านกว่าบาท และร้านค้า 2 ยูนิต โดยจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่ 16-18 ตุลาคม 2558 พร้อมส่วนลดและข้อเสนอพิเศษ
นายไตรเตชะ กล่าวว่า สำหรับรายได้ในปีนี้บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยโอนในช่วงครึ่งปีหลัง (ไตรมาส 3/58 และไตรมาส 4/58) อีก 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีการโอนโครงการไปแล้วเกือบ 1 หมื่น โดยในปีนี้บริษัทมีการโอนโครการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 8-9 โครงการ ซึ่งบริษัทคาดว่าการโอนจะเป็นไปตามเป้าหมาย
ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทในปัจจุบันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8% จากปีก่อนที่ 6% เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีการระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะอยู่ไนระดับต่ำ