(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้น เล็งรับผลจากราคาน้ำมันพุ่ง-เงินทุนไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 7, 2015 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันได้กระโดดขึ้นมา 2 เหรียญฯกว่า น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อีกทั้งราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานก็มี valuation ที่น่าสนใจแล้วหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหุ้น PTT

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ามีกระแสเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้ามาบ้างแล้ว โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP ที่มีการซื้อโดยรวมถึง 100 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ Flow ที่ไหลเข้ามาก็เชื่อว่าน่าจะเข้ามาที่หุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ปรับตัวลงไปมากแล้ว อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน รวมทั้งได้เห็นสัญญาณซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์ด้วย

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยวันนี้ให้ติดตามการประชุม BOJ และในวันพรุ่งนี้ก็ให้ติดตามการประชุม ECB

พร้อมให้แนวรับ 1,368-1,367 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(6 ต.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,790.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.76 จุด(+0.08%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,748.36 จุด ลดลง 32.90 จุด(-0.69%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,979.92 จุด ลดลง 7.13 จุด(-0.36%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 17.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 53.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.86 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 ต.ค.58) 1,370.69 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด(+0.55%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,205.66 จุด เมื่อวันที่ 6 ต.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 ต.ค.58) ปิดที่ 48.53 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 4.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 ต.ค.58)ที่ 6.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดวันนี้ 36.28/29 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐกดดอลล์อ่อน-คาดเฟดชะลอขึ้นดบ.
  • ครม.ไฟเขียว ให้ รฟม.ใช้ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 56 คัดเลือกเอกชนเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย "คมนาคม"เร่งสรุปผลศึกษารูปแบบลงทุน PPP-Net Cost (สัมปทานเดินรถ) แทน PPP-Gross Cost (จ้างเอกชนเดินรถ) เสนอ สคร.และกก. PPP ภายใน 3 เดือน "อาคม" เผย กก.มาตรา 35 จะเคาะว่าจะประมูลหรือเจรจา
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจาก 3.3% เหลือ 3.1% โดยเตือนว่า เป็นปีที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2009 เนื่องจากแรงฉุดของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้เหลือ 2.5% และปีหน้าลดเหลือ 3.2%
  • ธปท.จับตาการค้าและเศรษฐกิจโลกหลัง12 ประเทศลงนามกลุ่มประเทศ TPP ส่วนอนาคตไทยจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งหรือไม่ เป็นเรื่องระดับนโยบาย ระบุปัจจุบันไทยได้ทำ FTA ส่วนใหญ่กับประเทศ TPP อยู่แล้ว ยกเว้น สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก แต่ไทยผ่อนผัน GSP จากสหรัฐฯแนะเร่งพัฒนาคุณภาพสินค้า เพื่อประโยชน์ในการเป็นห่วงโซ่การผลิตกับประเทศสมาชิก TPP และรองรับการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้น
  • โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเลื่อนแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปจนถึงปี 2559 หรืออาจจะนานกว่านั้น อันเป็นผลจากเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยดัชนี ภาคการผลิตและการจ้างงานที่เริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดตัดสินใจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกออกไปก่อน
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเมินเวิลด์แบงก์ลดจีดีพีไทย ยืนได้แน่ 3% เชื่อมาตรการอัดฉีดของรัฐช่วยปีหน้าโตขึ้น ขณะที่แบงก์พาณิชย์คงคาดการณ์ต่ำกว่า 3% ด้าน กกร.หดเป้ารอบใหม่เหลือ 2.5% ยกปัจจัยรุมเร้าส่งออกติดลบสูง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ORI บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เทรดวันนี้วันแรกในตลาด SET หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ราคาขาย IPO ที่ 9.00 บาท/หุ้น

บริษัทฯประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริการจัดหาผู้เช่าห้องชุดและบริการรับจ้างบริหารโครงการนิติบุคคลอาคารชุดแก่โครงการที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาเท่านั้น

  • SYNEX (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 5.60 บาท ไตรมาส 3 เป็น High Season คาดรายได้และกำไรสุทธิโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากเพิ่ม Gross margin ได้ที่ 5.2% และกลยุทธ์ที่เน้นขายสินค้าตามเทรน อาทิ Smart phone และ tablet แทน PC และ laptop และเน้นขายสินค้าให้แก่กลุ่ม commercial ที่มีกำลังซื้อมาก ในไตรมาส 3 คาดมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเนื่องจากทำ Forward ไว้และทั้งปี 58 รายได้ส่งออก Indochina คาดเกินกว่า 1 พันล้านบาท
  • EPG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 12 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q16 (ก.ค.- ก.ย. 2015) ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง +10% Q-Q, +124% Y-Y นอกจากนี้ EPG ยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และต้นทุนเม็ดพลาสติกที่จะยังอยู่ในระดับต่ำไปจนถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อย
  • CPN(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อลงทุน"เป้า 60 บาท คาดรับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวของไทยไม่มาก เมื่อพิจารณาจากอัตราเติบโตของรายได้จากสาขาเดิม(SSSG)ในรอบ 1H58 ที่ยังขยายตัว 3.9% y-o-y และเมื่อรวมผลดีจากการเปิดสาขาใหม่ทำให้รายได้เพิ่ม 7% y-o-y การบริหารต้นทุนดำเนินงานดีและดอกเบี้ยจ่ายลดลง ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17% y-o-y กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากความสำเร็จในการบริหารศูนย์การค้า 28 แห่ง และจะเป็น 29 แห่งหลังจากเปิดให้บริการโครงการใหม่ที่รามอินทรา
  • PTT(เคเคเทรด)เป้า 363 บาท Valuation ไม่แพง ซื้อขายที่ P/BV 1 เท่า, ได้รับผลบวกเชิง Sentiment จากการฟื้นตัวระยะสั้นของราคาน้ำมัน, คาดงบ 3Q58 ได้รับผลกระทบเชิงลบน้อยกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มพลังงานเนื่องจากมีการถือหุ้นในบริษัทลูกกระจายในหลายธุรกิจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ