ทั้งนี้ TNP มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 58
TNP เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภาย ใต้ชื่อ “ธนพิริยะ" โดยรายได้หลักมาจากรายได้จากการขายสินค้าผ่านสาขาและสำนักงานใหญ่ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 12 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 11 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา ซึ่งทุกสาขามีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย รูปแบบของร้านธนพิริยะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการมีสินค้าที่หลากหลาย และมีราคาย่อมเยาแบบโมเดิร์นเทรด แต่มีความสะดวกแบบร้านสะดวกซื้อ
RHB OSK มั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ของบริษัทที่มีกว่า 25 ปี ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกและค้าส่งในจังหวัด เชียงราย ที่มีความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง การคัดเลือกสินค้าที่วางจำหน่ายครอบคลุมกว่า 15,000 รายการ การบริการ และทำเลที่ตั้งร้านค้าเหมาะสม สนับสนุนให้ธนพิริยะเป็นร้านค้าปลีกที่ครองใจผู้บริโภค ในจังหวัดเชียงรายมา โดยตลอด นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจในเชียงราย คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน เชียงรายเป็นจังหวัดเศรษฐกิจและเป็นประตูสู่ AEC ยิ่งมั่นใจได้ว่า การเดินหน้าขยายสาขาของธนพิริยะในช่วงต่อจากนี้ จะเป็นโอกาสที่สำคัญ และให้ผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ TNP กล่าวว่า ธนพิริยะ ในฐานะร้านค้าปลีกท้องถิ่นรายแรกของคนไทยอยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และสามารถปรับตัวและแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ผลให้ TNP มีผลการดำเนินงานที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เพราะด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหาร ทำให้บริษัทมีความเข้าใจผู้บริโภคท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดมีความยืดหยุ่น รวดเร็ว ระบบการจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมต่อคู่ค้า จึงมั่นใจว่าหลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขยายสาขาของธนพิริยะให้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงราย
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 12 สาขา และครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายเพียง 5 อำเภอเท่านั้น จากทั้งหมด 18 อำเภอ จึงยังเป็นโอกาสในการรุกขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ด้านเภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ TNP กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยธนพิริยะมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในเชียงราย เป็นหลัก เพื่อสร้างฐานลูกค้าและแบรนด์ของ “ธนพิริยะ" ให้แข็งแกร่ง ก่อนที่จะขยายวงกว้างไปสู่อำเภอรอบนอกและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและหนึ่ง ใน จุด ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอา เซียน (AEC) ในช่วงต่อจากนี้ ที่จะเป็นส่วนผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของการค้าตามแนวเขตชายแดน ซึ่งน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของเชียงรายเติบโตตามลำดับ
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 58 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 633.6 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 14.8 ล้านบาท ส่วนปี 57 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,201.7 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 45.4 ล้านบาท