ทั้งจากเรื่องที่ตลาดผ่อนคลายในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในปีนี้ หลังจากที่การรายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯออกมาแล้วระบุว่าจะต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจโลกก่อน ตรงนี้ทำให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็นไปได้น้อย และส่งผลให้ตลาดสหรัฐฯปรับขึ้นต่อ อีกทั้งยังทำให้มีการโยกย้ายเงินเข้ามาที่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นด้วย โดยมีการ take profit เงินดอลลาร์สหรัฐฯแล้วย้ายเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลก อีกทั้ง ราคาน้ำมันดิบก็ได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ส่วนปัจจัยในประเทศ ก็มีความชัดเจนในเรื่องกระแสเงินไหลเข้ามา จากที่นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิต่อเนื่อง และเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นด้วย ดังนั้นเป้าหมายที่นักลงทุนจะซื้อคืนน่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และแบงก์ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งน่าจะมีการเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 ของบริษัทฯที่กำลังทยอยประกาศออกมา
พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,408-1,408 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(8 ต.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด(+0.82%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด(+0.41%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด(+0.88%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 140.34 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.28 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 261.03 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.14 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.58 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันภาษาเกาหลี
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 ต.ค.58)1,392.15 จุด ลดลง 1.51 จุด(-0.11%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,715.69 จุด เมื่อวันที่ 8 ต.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 ต.ค.58) ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 ต.ค.58)ที่ 5.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 35.74 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลลาร์-เงินทุนไหลเข้าตลาดบอนด์
- แหล่งข่าวจากตลาดทุน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้บริหารกรมสรรพากรจัดสัมมนาและได้เชิญผู้บริหารจากองค์กรด้านตลาดทุนเข้าไปร่วมงาน โดยสรรพากรชี้แจงว่า ขณะนี้กำลังศึกษาถึงแนวคิดการเก็บภาษีส่วนต่างกำไรส่วนต่างราคาหุ้น หรือการเก็บภาษีผลได้จากทุน (Capital Gains Tax) จากนักลงทุนทั่วไปที่ได้รับการยกเว้นมาเกือบ 40 ปี แล้ว กลับมาจัดเก็บใหม่ให้เท่าเทียมกัน
- นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เผยคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบเพิ่มประเภทกิจการเป้าหมายที่จะได้สิทธิประโยชน์สูงสุดในเขตเศรษฐกิจพิเศษอีก 10 กลุ่มกิจการ จากเดิมที่ประกาศไปแล้ว 13 กลุ่มกิจการ
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.ว่า ดัชนีอยู่ที่ 72.1 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ 61.2 สาเหตุสำคัญเพราะการบริโภคยังไม่ฟื้นตัว
- น.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ลงนามในเรื่องการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงเงินฝากที่ ธปท.(Reserve Requirement) โดยย้ำว่าให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเฉลี่ยอัตรา 1%ของยอดเงินรับฝากและเงินกู้ยืม(เท่ากับอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องส่วนที่เป็นเงินฝากกระแสรายวันที่ธปท.และและเงินสดที่ศูนย์เงินสดกลางธนาคารพาณิชย์) แม้ตั้งแต่ต้นปี 59 เป็นต้นไป ทางธปท.จะปรับหลักเกณฑ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (LCR) ถือเป็นหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความเสี่ยงสภาพคล่องสากลแบบใหม่
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือน ก.ย. 2558 ว่าอยู่ที่ระดับ 43.3 ลดลงเล็กน้อยจาก 43.5 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันประเด็นค่าครองชีพ โดยเฉพาะรายได้และภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ทำให้ความต่อเนื่องของการดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาด้านกำลังซื้อและค่าครองชีพของครัวเรือนยังคงสำคัญต่อการพลิกฟื้นความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
- อภิศักดิ์โต้ภาษีที่ดินไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ยันยังไม่รับข้อเสนอ สั่งปรับแพคเกจกระตุ้น อสังหาฯให้แรงขึ้น มท.เผยเร่งแก้ กม.เอื้อลงทุนอสังหาฯช่วยกระตุ้น ศก. เอกชนวอนชะลอเก็บภาษีที่ดินฯ
*หุ้นเด่นวันนี้
- GUNKUL-W ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 91,660,129 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 27.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ธ.ค. 2558 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 ก.ย. 2560
- TISCO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อลงทุนระยะยาว"เป้าปีหน้า 42.70 บาท จะรายงานผลประกอบการวันจันทร์นี้ คาดกำไรสุทธิ 3Q15 ที่ 569 ล้านบาท -43% Q-Q, -42.6% Y-Y และกำไรทั้งปีนี้ -10.5% Y-Y เพราะถูกกระทบจาก SSI และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของ TISCO อยู่ที่เงินปันผลที่ไม่ถูกกระทบไปด้วย โดยคาดว่าน่าจะจ่ายได้เท่าปีก่อนคือ 2 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 5.6%
- EPG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 12 บาท จากการเยี่ยมชมโรงงาน Aeroflex (ฉนวนกันความร้อน/เย็น) โรงงาน Aeroklas (ชิ้นส่วนรถ หลังคารถกระบะ) และโรงงาน EPP (ถ้วย กล่อง จาน บรรจุภัณฑ์พลาสติก) ที่ระยองวานนี้ ประทับใจห้องทดลองและทดสอบคุณสมบัติและคุณภาพของสินค้าที่บริษัทลงทุนและลงแรง ทำให้เกิดความพิเศษกับสินค้าที่หน้าตาดูธรรมดาเหมือนคู่แข่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลประกอบการของบริษัทไม่แย่ในช่วงที่อุตสาหกรรม(ยานยนต์) หดตัว จากนี้ไปผลประกอบการจะขยายอย่างรวดเร็วจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในต่างประเทศที่ดีขึ้น ในขณะที่ธุรกิจฉนวนยางและบรรจุภัณฑ์พลาสติกเติบโตได้ต่อเนื่อง และการได้ Economy of scale กำไรปี 2016-17 (สิ้นสุด มี.ค.) ที่เราคาดโต 97% และ 11% ตามลำดับ อาจต่ำเกินไป
- BDMS(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 23.40 บาท ชอบปัจจัยพื้นฐานบริษัทในเรื่องธุรกิจไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจมาก มีการเติบโตจากการทำ M&A ที่ประสบความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมา สำหรับแรงกระตุ้นราคาหุ้นในอนาคต โดยมองว่าเป็นเรื่องความคืบหน้าการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่(Greenfield) หรือการซื้อโรงพยาบาลเข้ามาเพิ่ม สำหรับผลประกอบการปี 58-59 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5% ในปีนี้ แต่เติบโตเพิ่มเป็น 18% ในปี 59 เพราะโรงพยาบาลที่เปิดใหม่ทำรายได้เข้ามามากขึ้น