นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติแต่งตั้ง บล.เคทีบี (ประเทศไทย)เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ต่อผู้ถือหุ้น ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 19 พ.ย.58 และอนุมัติกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 ต.ค.58 และรวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 27 ต.ค.58
"เรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 7 โครงการ และเรายังคงมองหาลู่ทางการลงทุนในประเทศอื่นเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน เพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต โดยทั้ง 5 โครงการคาดว่าจะขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 59"นายยุทธ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2558 คาดว่ารายได้จะเติบโต 5 % และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามเป้าหมาย เนื่องจากจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น โครงการแรกที่จะจ่ายไฟฟ้า 8-12 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/59
ส่วนการนำบริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EPCO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปี 59 น่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มีกำลังการผลิตครบ 150 เมกะวัตต์ ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ