วันนี้ นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เผยแพร่ข่าวว่า บริษัทปรับเป้ามูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท จากเดิม 7,000 ล้านบาท จากแผนการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ “ Knights Bridge the Ocean Sriracha"มูลค่า 2,500 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้กวาดยอดพรีเซลแล้วกว่า 40%
รวมถึงการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ๆในโซนตะวันออกเพิ่มอีก 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมเกือบ 2,000 ล้านบาท อาทิ โครงการ Kensington แหลมฉบัง เฟสแรก โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 650 ล้านบาท และ โครงการ Notting hill แหลมฉบัง มูลค่า 1,300 ล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯมีการเปิดโครงการเฉพาะโซนภาคตะวันออก คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่า ORI มีมูลค่าการเปิดตัวโครงการเป็นอันดับหนึ่งของโซนภาคตะวันออก
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมเปิดโครงการ Kensington บนย่านเกษตร-สะพานใหม่(รถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม)มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท ช่วงเดือนตุลาคมนี้ หลังจากที่บริษัทฯประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการ Knights Bridge สะพานใหม่ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งในปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดพรีเซลเข้ามาแล้วกว่า 95%
ปัจจุบัน โครงการของ ORI มีทั้งหมด 27 โครงการ มูลค่ารวม 17,052 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ มูลค่า 3,117 ล้านบาท, โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ มูลค่า 3,610 ล้านบาท, โครงการที่อยู่ระหว่าง Pre Sales 7 โครงการ 6,955 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่ อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,370 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า จากยอดการจองซื้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯมีแนวโน้มที่จะปรับเป้ายอดพรีเซลขึ้นมาเป็น 6,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ายอดพรีเซลในปีนี้ ไว้ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดพรีเซลในมือรวม 5,400 ล้านบาท
สำหรับประมาณการรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ 3 ปีข้างหน้าที่ระดับกว่า 10,000 ล้านบาทในปี 61 เนื่องจากมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมยังมีต่อเนื่อง ซึ่ง ORI ก็มีจุดเด่นในแต่ละโครงการชัดเจน และตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างดี ประกอบกับ บริษัทฯมีแผนเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยเน้นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าทุกสายจากที่รัฐจะมีการขยายสถานีจาก 70 สถานี เป็น 300 สถานีในอนาคต นี้ โดยช่วงต้นปี 59 เตรียมเปิดโครงการ Knights Bridge ติวานนท์(ซึ่งติดรถไฟฟ้ากระทรวงสาธารณสุข) มูลโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท รวมถึงการเตรียมขยายโครงการแถวแพรกษา (บางปู- สมุทรปราการ) ฯลฯ
ทั้งนี้ จากแผนการขยายโครงการใหม่ ส่งผลให้ บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 2563 ภายใน 5 ปี บริษัทฯ จะติดอันดับ Top 3 จากปัจจุบันที่อยู่อันดับ Top 10 ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมที่มียอดขายสูงสุด และมียอดขาย อยู่ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯได้มีการหารือเบื้องต้นกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในกรณีการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้ เพื่อเป็นการสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจในอนาคตเพิ่มขึ้น ส่วนจะเป็นการนำเครื่องมือชนิดใดมาใช้ และเป็นช่วงเวลาใดนั้น ขณะนี้อยู่หระว่างหารือ