(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ามีโอกาสปรับตัวลงจากแรง take profit หลังไร้ประเด็นใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 14, 2015 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้จากแรง take profit เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามา ประกอบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่จะอยู่ในแดนลบมากกว่า

ทั้งนี้ ตลาดเริ่มหันกลับมามองที่เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ตัวเลขการนำเข้าของจีนออกมาปรับตัวลงมาก 17-18% ทำให้มีการมองถึงไทยที่มีการส่งออกไปยังจีนมากเหมือนกัน อย่างไรก็ดีให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในปลายเดือนนี้ ซึ่งก็คิดว่าจะยังไม่น่าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ แต่ก็ให้ไปลุ้นอีกทีในการประชุมเฟดช่วงกลางเดือนธ.ค.

พร้อมคาดดัชนีฯคงแกว่งแถวบริเวณ 1,400 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,380-1,390 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,410 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(13 ต.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,081.89 จุด ลดลง 49.97 จุด(-0.29%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,796.61 จุด ลดลง 42.03 จุด(-0.87%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,003.69 จุด ลดลง 13.77 จุด(-0.68%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 128.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.21 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 201.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 22.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.64 จุด

ด้านตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Awal Muharram

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ต.ค.58)1,406.69 จุด ลดลง 5.80 จุด(-0.41%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 144.48 จุด เมื่อวันที่ 13 ต.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ต.ค.58) ปิดที่ 46.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ต.ค.58)ที่ 5.93 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดวันนี้ 35.65/67 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบ 35.30-35.70
  • ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 13 ต.ค. อนุมัติ 3 มาตรการ กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เช่น การลดค่าโอนและจดจำนอง และให้ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท และนำ 20% ของราคาบ้านไปหักลดหย่อนภาษีได้เป็นเวลา 5 ปี
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% เป็นการถาวร เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลให้กับภาคธุรกิจที่เกรงว่าเดิมสิ้นปี 2558 อาจกลับไปจัดเก็บอัตราเดิม 30% โดยพิจารณาว่าหากรัฐกลับไปจัดเก็บอัตราเดิม รายได้ของรัฐจะเพิ่มขึ้นปีละ 179,000 ล้านบาท แต่จะกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ จึงเสนอให้ปรับแก้กฎหมายด้วยการออกเป็นร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือ 20% เป็นการถาวร เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ปี 2559 จะทำให้รถกระบะ รถพีพีวี และรถยนต์นั่งขนาดใหญ่มีราคาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3% เนื่องจากโครงสร้างของภาษีใหม่จะคิดจากราคาหน้าโรงงาน แต่การที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ จะผลิตเพื่อตุนให้ได้ราคาเดิมนั้นทำได้บางกรณี เพราะผู้ผลิตมีต้นทุนและต้องบริหารสต๊อกแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะต้องขายรถให้ได้ไม่เกิน 15 วัน
  • บริษัท ทริส เรทติ้ง เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 59 ประเมินว่าจะขยายตัว 2.5-3% โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหลักที่จะกำหนดว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้หรือไม่เพียงใด สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ รวมทั้งไม่เกิดปัญหาทางการเมืองภายในประเทศปะทุขึ้นมาอีก ซึ่งจะยิ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น
  • ธปท.ชี้ในปีงบประมาณ 59 นโยบายการคลังจะมีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มมากขึ้น เน้นการลงทุนโครงการขนาดเล็กช่วยสร้างงานในระยะสั้นช่วงอุปสงค์ในประเทศชะลอ รวมถึงรัฐวิสาหกิจเองเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แนะภาครัฐต้องสร้างความสมดุลระหว่างประสิทธิผลการใช้จ่ายกับระยะเวลาการส่งผ่านของนโยบายคลังสู่เศรษฐกิจ หวังเกิดความคุ้มค่าและตรงเป้าหมายที่สุด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AOT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อลงทุน"เป้า 366 บาท ธุรกิจมั่นคงเป็นผู้ประกอบการสนามบินรายเดียวของไทย และมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 58/59 จากการเปิดบริการอาคาร 2 ของดอนเมืองในเดือนพ.ย.58 และส่วนของสนามบินภูเก็ตในปี 59 จะรองรับผู้โดยสารของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 83.5 เป็น 95 ล้านคน/ปี และเป็น 101 ล้านคน/ปี หรือเพิ่มขึ้น 14% และ 21% ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิทำให้ EV/EBITDA อยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน(ปี 58-59 อยู่ที่ 15 และ 13 เท่า ตามลำดับ)
  • TIPCO(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 24.50 บาท บริษัทมี TASCO ที่ต้นทุนต่ำจึงมีกำไรยังไม่รับรู้เป็นจำนวนมากที่ราคาหุ้น TASCO มีกำไรที่ยังไม่รับรู้หลังภาษีถึง 9.3 พันล้านบาท ด้านราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานได้อีก 14% พร้อมคาดการณ์ปันผล TASCO ปีนี้ที่ 0.60 บาท นั่นคือ TIPCO จะได้รับ 200 ล้านบาท น่าติดตามว่าหลังจากไม่ได้ปันผลมานานปีนี้จะมีปันผลหรือไม่ อีกทั้งมีเหลือ TASCO ที่เป็นพอร์ตเทรดดิ้ง 2% หากขายไปจะได้กำไรมาก
  • SAWAD(เคเคเทรด)เป้า 49.75 บาท คาดผลประกอบการ 2H58 เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจาก 1H58 จากนโยบายการขยายสาขาเชิงรุกและต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการออกหุ้นกู้
  • ADVANC(เคเคเทรด)เป้า 288 บาท ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากข่าวเลื่อนวันประมูลคลื่น 900MHz ให้เร็วขึ้น
  • QTC (โกลเบล็ก)เป้า 5.90 บาท ได้ประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าทดแทนทั้ง แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล และชีวภาพ ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วและจะเริ่มฟื้นตัวตัวตั้งแต่ 3Q58 คาดมีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท เติบโตสูงมากจากช่วง 2Q58 ซึ่งเป็นช่วง Low-season คาดการณ์กำไรทั้งปี 58 ประมาณ 99 ล้านบาทเติบโต 80% YoY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ