สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในช่วงก่อนหน้านี้คือ “โครงการดิเอ็มเมอร์รัล เทอร์เรซ คอนโด ป่าตอง" มูลค่า 720 ล้านบาท แบ่งเป็นสองเฟส โดยเฟสแรกมีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ขณะนี้มียอดจองกว่า 75% ซึ่งรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 สิ้นสุดส.ค.58 ไปแล้ว 131.88 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปี 58 นี้ ส่วนเฟสสองมีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดจองกว่า 40% คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มเติม โดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรก (มิ.ย.-ส.ค.58) มีกำไรสุทธิ 122.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 27.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.43% เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมีรายได้รวม 334.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.98% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหลังมีรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 131.88 ล้านบาท จากการเข้าลงทุนในธุรกิจนี้เมื่อตอนต้นไตรมาส และมีการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดจึงมีรายได้เข้ามาในไตรมาสนี้เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการเรียนการสอนจากธุรกิจการศึกษาเพิ่มขึ้นจำนวน 33.10 ล้านบาท คิดเป็น 20.66% ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทที่มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาทุกๆ ปี ในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ บริหารธุรกิจ และบริหารการศึกษา เนื่องจากอัตรานิสิตมีจำนวนมากขึ้น
ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 212.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากต้นทุนขายจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นจำนวน 83.49 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทตั้งประมาณการหนี้สูญในไตรมาสนี้จำนวน 5.53 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีการกลับรายการตั้งค่าเผื่อฯ เนื่องจากสมมติฐานที่ใช้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางลดลง ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 31.92 ล้านบาท