ทั้งนี้ บริษัทได้เลื่อนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ออกไป 3 โครงการ จากเดิมที่คาดว่าทั้งจะเปิด 10 โครงการ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ปีนี้คาดว่าจะเปิดได้เพียง 7 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 โครงการจะไปเปิดในปี 59 คาดว่าจะเป็นการเปิดโครงการแนวราบ 1 โครงการในช่วงไตรมาส 1/59 ซึ่งเปิดตัวไม่ทันในปีนี้ แต่หากเร่งการก่อสร้างได้เร็วก็น่าจะเปิดขายได้ในช่วงที่มาตรกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐยังมีผลบังคับใช้ ส่วนอีก 2 โครงการจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมคาดว่าจะทยอยเปิดได้ในไตรมาส 2-3 ปี 59
สำหรับยอดขายของบริษัทในปีนี้ยังเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท แม้จะมีการเลื่อนเปิด 3 โครงการใหม่ไปเป็นไปเป็นปีหน้าก็ตาม เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสต็อกโครงการในมือต่ำกว่า 3 ล้านบาท/ยูนิต อยู่ในข่ายที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้นได้ ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ออกมาเชื่อว่าจะทำให้เร่งเกิดการขายและโอนโครงการเร็วขึ้น แต่เชื่อว่าการโอนจะไปกระจุกตัวในเดือนสุดท้ายของมาตรการ
ส่วนแผนงานในปีหน้า บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ที่ระดับ 1 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ และยังมีการสำรองเงินไว้บางส่วนเพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติม ซึ่งยังต้องรอดูนโยบายของภาครัฐว่าจะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีกหรือไม่ด้วย