ส่วนรายได้รวมปีนี้น่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าปี 57 ที่มีรายได้รวม 425.81 ล้านบาท โดยล่าสุดได้ส่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ APCOcapsule และ APCOessence ที่สร้างเสริมภูมิสมดุลเพื่อถนอมและดูแลสุขภาพของดวงตา โดยสามารถทำให้เม็ดเลือดขาวลดการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการต่างๆ เช่น วุ้นตาเสื่อม ตาแห้ง สายตายาว ต้อกระจก ต้อหิน ม่านตาอักเสบ จอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทได้นำนวัตกรรมทั้งสองชนิด ให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ผ่านช่องทาง APCO Direct Service และ APCO TV Marketing ในช่วงปลายไตรมาส 3/58 ที่ผ่านมา
ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ บริษัทจะขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัทให้มีความรวดเร็วและเข้าถึงผู้บริโภคทุกระดับได้มากขั้น โดยโครงสร้างการตลาดใหม่ ประกอบด้วย APCO Direct Service ,APCO TV /Digital Marketing และ APCO Pharma ในร้านขายยาทั่วประเทศ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากช่องทาง APCO Digital Marketing และ APCO Pharma ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/58 เป็นต้นไป
"รายได้ปี 59 น่าจะโตอีกเท่าตัวจากปี 57 โดยเป็นเฉพาะภายในประเทศ ยังไม่รวมเอเย่นต์ที่ซื้อสินค้าของเราไปขายผ่านรายการทีวี ซึ่งเมื่อปี 57 สร้างผลกำไรให้บริษัท 30 ล้านบาท ปีนี้กำลังซื้อหายไป แต่เชื่อว่าปี 59 กำลังซื้อจะกลับมา และยังไม่นับรวมยอดขายจากต่างประเทศ ก็น่าจะทำให้รายได้ทั้งปี 59 โตมากกว่าเท่าตัว"นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า รายได้ในประเทศที่จะเติบโตอีกเท่าตัวในปีหน้า เป็นผลจากการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลักดังกล่าว โดยเฉพาะช่องทางร้านขายยา ที่จะเริ่ม 100 แห่งในไตรมาส 4/58 และจะเพิ่มเป็น 4 พันแห่งในปีหน้า หลังจะเซ็นสัญญากับร้านขายยาแบรนด์ FASCINO ซึ่งมีเครือข่าย 4 พันร้านค้าตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่จะนำเข้าไปขายในร้านขายยา เบื้องต้นจะเป็นเฉพะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างภูมิคุ้มกัน ภูมิสมดุลเพื่อสุขภาพ ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่ยังไม่ได้เข้าไปร่วมจำหน่าย
ในปีหน้ารายได้จากในประเทศจะมาจากช่องทางการขายผ่าน Digital Marketing เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 70% ,รายได้จากช่องทางการขาย APCO Direct Service ประมาณ 320 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิไม่มากที่ราว 15% เนื่องจากต้องจ่ายโบนัสให้กับพนักงานขาย และรายได้จากช่องทางการขายผ่านร้านขายยา มีอัตรากำไรสุทธิราว 40% ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยในปีหน้าเพิ่มขึ้นจากปีนี้และผลักดันให้กำไรสุทธิในปี 59 เติบโตได้เท่าตัวจากปีนี้ด้วย
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทยังไม่สามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้ไม่ถึง 25% แต่เชื่อว่าการผลักดันการขายผ่านช่องทางต่างๆเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ก็จะทำให้อัตรากำไรสุทธิทั้งปีนี้อยู่ในระดับ 25% ได้
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าการเข้าซื้อกิจการในประเทศคาดว่าจะสรุปได้ปลายปีนี้ หลังคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ศึกษาการเข้าซื้อกิจการแล้ว โดยขณะนี้ยังต้องรอดูผลกำไรทั้งปีของบริษัทดังกล่าวก่อนการเข้าซื้อ และยังต้องประเมินผลประโยชน์ร่วม (synergy) ที่จะเสริมให้กับบริษัทและหนุนให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินสดอยู่ 400 ล้านบาทเพียงพอต่อการเข้าซื้อกิจการ แต่หากไม่พอก็ยังมีหุ้นเพิ่มทุนอีก 250 ล้านหุ้นที่เตรียมจะออกขาย โดยในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้จะเจรจาขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรสิงคโปร์ ที่เป็น strategic partner อยู่แล้วเพื่อจะเข้ามาเสริมธุรกิจบริษัทให้เติบโตมากขึ้น
ส่วนหุ้นเพิ่มทุนจำนวนหนึ่งที่จะเสนอขายให้กับผู้มีอุปการะคุณที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทตั้งแต่ 1-18 พ.ค.58 สามารถใช้ยอดซื้อที่สะสม (เป็นบาท) เป็นสิทธิ์สั่งจองหุ้นเท่ากับยอดซื้อ โดยสามารถซื้อหุ้น APCO ได้ในราคาพิเศษในวันที่ 19-25 พ.ย.58 นั้น ล่าสุดได้เจรจากับที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทแล้ว เห็นว่ากำหนดการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้าซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสมหลังประเมินว่าน่าจะมีผู้สนใจซื้อหุ้นไม่มากนัก