"ความมั่นคงด้านพลังงาน ต้องพิจารณาว่าจะมีเพียงพอไหม ครอบคลุมให้ได้ทุกคนไหม ซึ่งนับเป็นความท้าทายให้มีพลังงานใช้อย่างทั่วถึงและในราคาที่เป็นธรรม คือราคาพลังงานถูกพอที่จะเข้าถึงได้และต้องเป็นธรรมกับผู้ผลิตด้วยเพื่อให้ผู้ผลิตสามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง การอุดหนุนราคาพลังงานจะเป็นการทำลายความสามารถการผลิต เพราะการอุดหนุนเท่ากับเป็นการช่วยคนที่ใช้พลังงานมากที่สุดมากกว่าจะช่วยเหลือคนที่มียากจน ซึ่งขณะนี้หลายประเทศก็มีการปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว...ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่จะยกเลิกการอุดหนุนเพราะราคาน้ำมันลดลงมาครึ่งหนึ่ง"นายเทวินทร์ กล่าวในหัวข้อ"Security & Sustainability in the ASEAN Energy Sector" ในงานสัมมนา "ASEAN Business Forum 2015"
นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า ภูมิภาคอาเซียนนับว่ามีขนาดใหญ่ และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีประชากรประมาณ 600 ล้านคนและคาดว่จะเพิ่มเป็น 700 ล้านคนในอีก 15 ปีข้างหน้า ขณะที่ประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบสุทธิ ยกเว้นเพียงบูรไนและมาเลเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิ ส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาตินั้น มีเพียงสิงคโปร์และไทย ซึ่งปัจจุบันภาพรวมของภูมิภาคอาเซียนมีการผลิตก๊าซฯมากกว่าการใช้ แต่ในอีก 15 ปีข้างหน้าคาดว่าช่วงห่างระหว่างการผลิตและการใช้จะแคบลง จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น แต่แหล่งผลิตใหม่มีน้อยลง
ดังนั้น นับเป็นความท้าทายที่ภูมิภาคอาเซียนจะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานร่วมกัน เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงพลังงาน ภายใต้ราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงต้องสร้างมาตรฐานเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานไม่มากนักที่จะผลักดันให้ภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศขยายตัว โดยการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนเมื่อเร็วๆนี้ ได้วางเป้าหมายลดการพึงพาพลังงานต่อจีดีพีให้ได้ 20% หรือภายในปี 63 ซึ่งนับเป็นความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็เห็นว่าแผนดังกล่าวเป็นแผนระยะยาวที่ยังมีโอกาสที่จะดำเนินการได้ และหวังว่าราคาน้ำมันจะไม่อยู่ในระดับต่ำนานเกินไป
สำหรับความร่วมมือของภูมิภาคอาเซียนด้านพลังงานนั้น ได้มีข้อตกลงที่จะช่วยเหลือกันหากประเทศใดมีความขาดแคลนพลังงาน โดยจะมีการดำเนินการในด้านของโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านของสายส่งไฟฟ้า และท่อส่งน้ำมันและก๊าซฯ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกัน แม้ปัจจุบันจะยังไม่สามารถทำได้ครอบคลุมทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน แต่ก็สามารถเชื่อมโยงในบางประเทศได้บ้างแล้ว เช่นในกลุ่ม CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงมาเลเซีย