BA ปี 59 คาดรายได้รวมโต 10-15% กำไรทำนิวไฮต่อเนื่องจากปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 16, 2015 15:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) คาดว่าในปี 59 รายได้จะเติบโต 10-15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-15% โดยเป็นการเติบโตจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารที่ 5.3-5.4 ล้านคน รวมทั้งในปีหน้าจะมีจำนวนเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีก 3 ลำเป็นเครื่องบินใหม่รุ่น ATR จำนวน 3 ลำ และอยู่ระหว่างเจรจาเช่าเครื่องบินแอร์บัสเพิ่มด้วย

ขณะที่คาดว่า กำไรสุทธิในปี 59 จะทำนิวไฮต่อเนื่องปีนี้ทีคาดว่ากำไรสุทธิทำนิวไฮเช่นกัน โดยคาดจะมีอัตรากำไรสุทธิที่ 9.2% ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมต้นทุน โดยปัจจุบันมียอดจองล่วงหน้า 9.65 แสนคน ในช่วง 11 เดือนข้างหน้า หรือ 330 วัน

ในปี 59 บริษัทเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ไปเวียดนาม คือ กรุงเทพ-ดานัง และ ศึกษาเส้นทางบินที่เกาะฟูก๊วก คาดว่าจะเปิดบริการในปลายปี 59

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรเที่ยวบินร่วม(Code Share) อีก 3 พันธมิตร ได้แก่ สายการบินออสเตรีย, ไชน่าอีสเทิร์น และ โคเรียแอร์ จากป้จจุบันมีโค้ดแชร์จำนวน 20 สายการบิน

ส่วนในปี 58 คาดว่า อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะอยู่ที่ 68-69% ต่ำกว่าเดิมที่คาดไว้ที่ 70% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปลดลง รวมถึงได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันในจ.เชียงใหม่ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารน้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม Cabin Factor ในปีนี้ถือว่ายังสูงกว่าปีที่แล้วอยู่ที่ 64% โดยครึ่งแรกปีนี้ ทำได้ที่ 68%

"ภาพรวมท่องเที่ยวปี 58 ในช่วงครึ่งปีแรกเหตุการณ์บ้านเมืองในไทยสงบทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก ส่งผลให้กำไรสุทธิครึ่งปีแรก ทำได้ประมาณ 1 พันล้านบาท จากปีก่อนช่วงเดียวกันทำได้ 200 ล้านบาท ถือว่ากำไรโตไป 400% แล้ว นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจากอาเซียน เช่น กัมพูชา และก็มาจาก จีน ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น...อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมองว่าจากนี้ไปเติบโตได้ประมาณ 10% ต่อปี "นายพุฒิพงศ์ กล่าว

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เพิ่มเที่ยวบินเพื่อครอบคลุมเส้นทางการบินในอาเซียนมากขึ้น โดยเริ่มในไตรมาส 4/58 ได้แก่ กรุงเทพ-ภูเก็ต เพิ่มจาก 8 เที่ยวบิน/วันเป็น 9 เที่ยวบิน/วัน กรุงเทพ-สมุย จาก 5 เที่ยวบิน/วัน เป็น 6 เที่ยวบิน/วัน เส้นทาง สมุย- สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นจาก 10 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 12 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เชียงใหม่ -ย่างกุ้ง จาก 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เชียงใหม่ -มัณฑะเลย์ จาก 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์เป็น 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ส่วนกรุงเทพ -พนมเปญ จาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 6 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จะเริ่มในเดือนม.ค. 59

ขณะเดียวกันได้พิจารณาที่จะยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพ-อุดรธานี เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน เพราะมีสายการบินต้นทุนต่ำลงมาแข่งขัน ในขณะที่ BA จะไม่เน้นแข่งราคาแต่จะเสนอการให้บริการมากกว่า และ เที่ยวบินดังกล่าว มีผู้ให้บริการจำนวนมาก ถือว่าเป็นตลาดของสายการบินต้นทุนต่ำ ทั้งนี้คาดจะยกเลิกได้ในปลายปี 58 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของบริษัทดีขึ้น และจะนำเครื่องบินไปบินในเที่ยวบินอื่นได้

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างขอพื้นที่ 8,000 ตร.ม.กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และจะเริ่มก่อสร้างปี 59 และยังลงทุนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารสนามบินสมุย จำนวน 1,000 ล้านบาท รวมทั้ง จะนำเงินประมาณ 8,000 ล้านบาทใช้เช่าซื้อเครื่องบินใหม่ 3 ลำ ในปีหน้า โดยแหล่งเงินจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ 10,000 ล้านบาท

ในปลายปีนี้ BA จะรับมอบเครื่องบินใหม่เป็นเครื่องบิน ATR จำนวน 2 ลำ ในเดือนพ.ย. - ธ.ค. ทำให้สิ้นปีนี้มีฝูงบิน 33-34 ลำ โดยจำนวนี้ เป็นเครื่องบินแบบเช่ากว่า 20 ลำ และเป็นเครื่องบินของบริษัทอีก 10 ลำ ขณะเดียวกัน บริษัทจะปลดระวางเครืองบินเก่า 5-6 ลำ และนำออกขายในช่วงปลายปีนี้ถึงปี 59 โดยคาดว่าราคาเครื่องบินเก่า ประมาณ 7 ล้านดอลาร์/ลำ

ณ สิ้นต.ค. 58 มีฝูงบิน 30 ลำ เป็นแอร์บัส 19 ลำ ATR 11 ลำ อายุเฉลี่ย 6 ปี โดยมีเครื่องบินที่มีอายุมากสุดที่ 11 -12 ปี

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องระมัดระวังในปี 59 คือเรื่องราคาน้ำมันที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นต้นทุนหลักซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 30%ของต้นุทนทั้งหมด โดยปัจจุบันบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงไว้ที่ 50% ของปริมาณใช้น้ำมัน และคาดว่าในปี 59 จะทำประกันความเสี่ยงต่อเนื่องที่ระดับ 50%

ส่วนราคาหุ้นปัจจุบันที่มีราคาต่ำกว่าราคาจองที่ 25 บาทนั้น นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า บริษัทได้พยายามดำเนินธุรกิจให้ดีที่สุด ให้มีผลประกอบการที่ดี และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยล่าสุดราคาหุ้น BA อยู่ที่ 20.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+0.98%)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ