นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท.เปิดเผยว่า ตลท.จัดพิธีมอบรางวัลด้านความยั่งยืนเป็นครั้งแรก เพื่อประกาศเกียรติคุณและยกย่อง บริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง มอบรางวัลให้แก่บจ. ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว นับเป็นแผนงานสำคัญของ ตลท.ภายใต้กลยุทธ์ด้านการยกระดับตลาดทุนไทยสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ตลท.มอบรางวัลด้านความยั่งยืน 2 ประเภท คือ รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยม (SET Sustainability Awards 2015) สำหรับ 9 บริษัทที่มีความโดดเด่นเป็นต้นแบบแห่งการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโต บนพื้นฐานของการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างสมดุล ได้แก่ บมจ. บ้านปู (BANPU) บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) และ บมจ. ไทยออยล์ (TOP)
รางวัลการลงทุนในกิจการเพื่อสังคม (SET Social Enterprise Investment Awards 2015) สำหรับ 4 บริษัทที่มีส่วนสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างโดดเด่น ด้วยการดำเนินธุรกิจหรือการลงทุนเพื่อสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม ได้แก่ บมจ. บางจากปิโตรเลียม (BCP) บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ บมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED)
นอกจากนี้ ตลท.ยังได้ประกาศ Thailand Sustainability Investment 2015 หรือรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน" โดยมี 51 บจ. ที่สามารถผ่านเกณฑ์การประเมินด้านความยั่งยืนและได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อดังกล่าว ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI จำนวน 13 บริษัท และบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ ตลท.จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับมาตรฐานในระดับสากล เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพและคาดหวังผลตอบแทนที่ต่อเนื่องในระยะยาว
ด้าน PTT ระบุในเอกสารเผยแพร่ว่า ปตท.ได้รับ 2 รางวัลดังกล่าว ได้แก่ รางวัลความยั่งยืน และรางวัลองค์กรลงทุนหรือสนับสนุนความยั่งยืนของไทย ประจำปี 58 ซึ่งสะท้อนการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเท่าเทียมกันต่อผู้มีส่วนได้เสีย เชื่อมโยงการดำเนินธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม