ทั้งนี้ หลังจากที่มีความคืบหน้าชัดเจนจากการดำเนินการตามขั้นตอนในส่วนที่เหลือทั้งหมดของการขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ บริษัทฯ และ บล. อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จะร่วมกันกำหนดวันเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ก่อนจะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในลำดับต่อไป
"SR ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจาก Integrated and Value-added Engineering ที่เกี่ยวเนื่อง อีกทั้งเพียบพร้อมด้วยทีมงานผู้บริหารและบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสายงานวิศวกรรมมากกว่า 30 ปี ชื่อเสียงและการยอมรับจากผลงานในอดีตที่ผ่านมา ตลอดจนฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม (Diversified customer base) ที่สำคัญต่อทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบในด้านการแข่งขันและการสร้างมูลค่าเพิ่มจากโอกาสทางธุรกิจของ SR ได้อย่างโดดเด่น
กล่าวคือ ธุรกิจก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายหลัก และการเพิ่มจำนวนสถานีบริการ NGV ตามงบประมาณลงทุนในระยะ 5 ปีของ ปตท. รวมไปถึงการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนสูงสุดหากเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ในขณะที่ธุรกิจระบบปั๊มอุตสาหกรรมมีแนวโน้มสดใสจากการเพิ่มการเป็นตัวแทนจำหน่ายปั๊มอุตสาหกรรมแบรนด์ ITT Goulds Pumps จากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำที่มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลก"นายรัฐชัย กล่าว
นอกจากนี้ การดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจที่แตกต่างกันส่งผลให้ทิศทางการเติบโตในแต่ละกลุ่มธุรกิจค่อนข้างมีความเป็นอิสระจากกัน ซึ่งถือเป็นผลดีสำหรับการบริหารจัดการเงินลงทุนและการกระจายความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในภาพรวมของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SR กล่าวว่า งานในรูปแบบวิศวกรรมเพิ่มมูลค่าแบบครบวงจร (Integrated and Value-added Engineering) คือหัวใจของโมเดลการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2527 การให้ความสำคัญในเชิงนโยบายดังกล่าวถูกสอดแทรกในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ส่งผลให้เกิดการสร้างความแตกต่างและสนับสนุนให้ SR ก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญและมีการยอมรับจากลูกค้าในแต่ละกลุ่มธุรกิจที่บริษัทฯ ดำเนินงานจนถึงวันนี้
กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ในปัจจุบันประกอบไปด้วยธุรกิจก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (Metering and Pipeline Transmission: MPT) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (Natural Gas for Vehicles: NGV) ได้แก่ ออกแบบและก่อสร้าง บำรุงรักษาและบริหารจัดการสถานีบริการให้แก่ ปตท. และผู้ประกอบการรายอื่น และสถานีบริการเพื่อรองรับความต้องการของทุกกลุ่มผู้ใช้งานบนเส้นทางคมนาคมสายหลัก และธุรกิจระบบปั๊มอุตสาหกรรม (Engineered Pumps and Systems: EPS) ให้แก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม
อนึ่ง กลุ่มธุรกิจ MPT NGV และ EPS มีสัดส่วนต่อรายได้จากการดำเนินงานรวมสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 55 ร้อยละ 35 และร้อยละ 10 ตามลำดับ
“SR จะเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาเราก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากความสำเร็จในการเข้าร่วมงานโครงการในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียงและอาศัยความเชี่ยวชาญงานในด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก อาทิเช่น โครงการ Zawtika ในประเทศพม่า โครงการโรงไฟฟ้าขนอมและโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรีเวอลด์ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจเป็นผู้ให้บริการในส่วนงานบำรุงรักษาสถานีบริการ NGV ให้แก่ ปตท. มาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดภายใต้ธุรกิจระบบปั๊มอุตสาหกรรม บริษัทฯ เร่งแนะนำ ทำกิจกรรมการขายและการตลาดเพื่อโปรโมทสินค้าใหม่ ITT Goulds Pumps ซึ่งเป็นปั๊มอุตสาหกรรมแบรนด์ระดับโลกของบริษัท ITT Fluid Technology International, Inc ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าจะเป็นฐานสำคัญในการต่อยอดอัตราการเติบโตของกลุ่มธุรกิจนี้อย่างก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต" นายเกียรติ กล่าว
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัท ฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450 ล้านหุ้น และภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งแรกจำนวน 150 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 600 ล้านหุ้น
สำหรับผลการดำเนินงานมีการขยายตัวของรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2555 – 2557 มีรายได้เท่ากับ 1,033 ล้านบาท 1,374 ล้านบาทและ 2,212 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้เท่ากับ 944 ล้านบาท