DTAC แถลงผลประกอบการในไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิ 1.23 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.52 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.58 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.09 บาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/58 บริษัทมีรายได้รวม 19,695 ล้านบาท ลดลง 5.6% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 10% เทียบกับ ไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการเสียงและรายไดจ้ กการจาหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลข หมาย รวมทั้ง มีการปรับลดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่ายมาอยู่ที่ 0.34 บาทต่อนาที จากเดิมอยู่ที่ 0.45 บาทต่อนาทีโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2558
รายได้จาการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 16,396 ล้านบาท ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 1.5% เมื่อ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการข้อมูลไม่สามารถชดเชยการลดลงของรายได้จากการให้บริการเสียง ขณะที่ในไตรมาสนี้มีการบันทึกรายการพิเศษโดยรับรู้รายได้จากบริการระบบเติมเงินจำนวน 52 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวม รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ ผ่านมา
ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายลดลงในไตรมาสนี้เนื่องจากมียอดขายเครื่องไอโฟนลดลงและการลดกิจกรรมให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดลูกค้าระบบเติมเงิน
DTAC ยังคงแนวโน้มของผลประกอบการในปี 58 โดยเราคาดว่าแนวโน้มในไตรมาส 4/58 จะปรับตัวดีขึ้นทั้งจากปัจจัยเชิงฤดูกาลและการเปิดขายไอโฟนรุ่นใหม่ในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัว การลดลงของการให้ส่วนลดค่าเครื่องในกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินและแผนการเพิ่มประสิทธิในด้านต่างๆ จะเป็นปัจจัยช่วยให้แนวโน้ม EBITDA Margin อยู่ที่ 31-33% ตามที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้บริษัทยังคงใช้เงินลงทุน 18,000-20,000 ล้านบาทตามที่วางแผนไว้เพื่อให้เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ชั้นนาในประเทศไทย เพื่อพัฒนาโครงข่าย 3G ที่มีศักยภาพในการแข่งขันภายในสิ้นปีนี้และคาดว่าจะเปิดให้บริการ 4G บนคลื่น 1800MHz บนระบบสัมปทานในไตรมาส 4/58 เพื่อเป็นผู้นำการให้บริการ 4G ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์ 4G ในสัดส่วนที่สูง